นครศรีธรรมราช 16 เม.ย.เกิดเหตุเรือประมงเล็กล่มหลายสิบลำ ล่าสุดพบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราชระดมเจ้าหน้าที่เร่งค้นหา พร้อมประสานขอเรือตรวจการ และเฮลิคอปเตอร์ ช่วยค้นหา
คืบหน้าเหตุการณ์พายุคลื่นลมแรงในทะเล อ.ปากพนัง , สิชล , ท่าศาลา และ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เรือเล็กที่ออกจากฝั่งไปทำการประมงในทะเลอับปางไปหลายลำ และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ล่าสุด นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่อำนวยการช่วยเหลือค้นหาผู้ที่เรืออับปาง และยังติดอยู่ในทะเล ที่ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง พร้อมตั้งศูนย์ผู้บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า และมอบหมายให้ นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าฯไปบัญชาการเหตุการณ์ ที่ อ.สิชล พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ตำรวจน้ำศรชล ,ประมง,กู้ชีพ กู้ภัยฯ และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ โดยข้อมูลเรือประมงที่ออกจากฝั่ง พื้นที่ อ.ปากพนัง 23 ลำ ลูกเรือ 53 คน เรือล่ม 8 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 12 ลำ ติดต่อไม่ได้ 3 ลำ ช่วยชีวิตปลอดภัย 45 คน ยังติดต่อไม่ได้ 7 คน และเสียชีวิต 1 คน คือ นายอนุสรณ์ มณีวงศ์ อายุ 30 ปี ชาว ต.แหลมตะลุมพุก ส่วนที่ อ.ท่าศาลา มีเรือออกจากฝั่ง 5 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 4 ลำ ติดต่อไม่ได้ 1 ลำ อ.สิชล เรือออกจากฝั่ง 1 ลำ ลูกเรือ 4 คน ช่วยเหลือได้แล้ว 3 คน อยู่ระหว่างค้นหา 1 คน และ อ.เมือง เรือออกจากฝั่ง 8 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 8 ลำ อยู่ระหว่างค้นหา 1 คน
ผู้ว่าฯ ยังได้ประสานขอรับความช่วยเหลือจาก ผบ.ทัพเรือภาค 2 ขอสนับสนุนเรือตรวจการ 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย และประสานกิงบิน 7 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาทางอากาศในการระบุเป้าหมายและสนับสนุนชูชีพ และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ดำเนินการออกประกาศห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 17 เม.ย.66 ให้นายอำเภอปากพนัง ทั้ง 4 อำเภอ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์บูรณาการ หน่วยงานทุกหน่วยในพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และรายงานผลการปฏิบัติหรือขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือมายังจังหวัดทันทีกรณีเกินความสามารถ
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการด่วนเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมสั่งการผู้ว่าฯ จังหวัดภาคใต้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ประเมินสถานการณ์ หากมีความรุนแรงต้องสั่งเรือทุกชนิดงดออกจากฝั่ง และช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยทันที
นอกจากนี้ได้รับรายงานเมื่อช่วงสาย เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ของบริษัท ราชาเฟอร์รี่ ตะแคงจมครึ่งลำ บริเวณท่าเทียบเรือ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นเรืออาร์ 10 รับผู้โดยสารมาจากอ.เกาะสมุยและเข้าจอดเทียบท่าส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเกิดคลื่นลมแรง ซัดตัวเรือกระแทกกับท่าเทียบเรือจนทำให้เรือตะแคงและน้ำไหลเข้าในตัวเรือ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เรือได้จมลงจนถึงพื้นดินแล้ว ที่ระดับความลึกประมาณ 4 เมตร ล่าสุดมีการออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าวแล้ว พร้อมกำชับให้ดูแลการกู้เรือดังกล่าว เพื่อป้องกันคราบน้ำมันไหลออกมายังผิวน้ำด้วย.-สำนักข่าวไทย