นครนายก 11 เม.ย. – พูดได้ ทำได้! “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคเบอร์ 7 หาเสียง จ.นครนายก ย้ำนโยบายพรรคไม่ขายฝัน เป็นนโยบายระยะยาว เน้นความมั่นคง ทั้งประชาชน ประเทศชาติ ปลื้มประชาชนต้อนรับอบอุ่น
11 เมษายน 2566 ที่วัดบางปรัง ต.ศรีจุฬา อ.เมือง จ.นครนายก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหาร อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ระบบบัญชีรายชื่อ, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ และ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง แนะนำนโยบายพรรค ทั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่ อ.เมือง คือ นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร และเขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.วุฒิชัย กิตติธเนศวร ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง มีการขอถ่ายรูปกับนายอนุทิน และผู้สมัคร พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
นายอนุทิน กล่าวว่า พื้นที่ จ.นครนายก มีการทำเกษตรกรรมกันมาก และท่านผ่านอะไรมาเยอะ มันก็แก้ปัญหาท่านไม่ได้ วันนี้ พรรคภูมิใจไทย มีแนวทางใหม่มานำเสนอ เรียกว่า เกษตรร่ำรวย หรือ 1. เกษตรกรต้องรู้ราคาล่วงหน้า ก่อนจะปลูก ถ้าได้ราคาที่พอใจ มีกำไร ไม่ขาดทุน จึงตัดสินใจปลูก และ 2. เกษตรกรต้องมีประกันการเพาะปลูก ได้รับเงินที่ลงทุนไป ในกรณีที่ไร่นา ผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติ หรือ ต้นทุนปัจจัยการผลิตที่ผันผวน ชาวไร่ ชาวนา ไม่ต้องเสี่ยงดวง แต่ได้ตัดสินใจบนข้อมูล ทั้งยังได้รับการดูแลจากภาครัฐ
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ที่มานั่งฟังกันในวันนี้ มีผู้สูงวัยจำนวนมาก สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับท่าน เราไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนทุกรุ่นล้วนสำคัญ เรามีนโยบายผู้สูงอายุ ให้สิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง วงเงิน 20,000 บาท ในวันที่เสียชีวิต ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท
นอกจากนั้น พรรคเรายังต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน คนไทยทุกครัวเรือนมีสิทธิเข้าร่วมโครงการการไฟฟ้าประชาชน สนับสนุนให้ทุกครัวเรือนใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล ลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 450 บาท/เดือน และสิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า บ้านละ 1 คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระ เดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 เดือน
และนโยบายล่าสุด พรรคภูมิใจไทยได้เสนอนโยบายให้คนไทยทุกคนที่บรรลุนิติภาวะ อายุ 20 ปีขึ้นไป มีวงเงินกู้ฉุกเฉินคนละ 50,000 บาท เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินของชีวิตตัวเองและครอบครัว หรือใช้เป็นทุนประกอบอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ตัวเอง รวมไปถึงใช้เป็นเงินปิดวงจรหนี้นอกระบบของตัวเองได้
“นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เป็นไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน บนพื้นฐานของความมั่นคงด้วย เราไม่ได้ลดแลกแจกแถม แต่เราพยายามสนับสนุนความเป็นอยู่ของประชาชน นโยบายของเราเป็นนโยบายระยะยาว ไม่ใช่นโยบายระยะสั้น เราให้คุณค่ากับความมั่นคง และการทำได้จริงเป็นสำคัญ โดยรัฐก็ต้องอยู่ได้เช่นกัน ที่สำคัญ พูดอะไรแล้วก็ต้องทำได้ด้วย ให้สมกับเป็นพรรคพูดแล้วทำ” – สำนักข่าวไทย