เขตพระนคร 9 เม.ย. – แกนนำพรรคเพื่อไทย นำผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 ลงพื้นที่หาเสียง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พบปะประธานที่วัดซิกข์-วัดฮินดู ยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกศาสนา ย้ำไม่ได้ทำเพื่อแสวงหาอำนาจ แต่ต้องการพาประเทศก้าวไปข้างหน้า มั่นใจแจง กกต.ที่มางบฯ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท มองเป็นเรื่องปกติถูกพรรคอื่นโจมตี
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียงกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นำ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 ลงพื้นที่วัดคุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา หรือ วัดซิกข์ ถนนพาหุรัด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพบปะสนทนากับประธานวัดไทยซิกข์ จากนั้นได้เดินทางไปวัดเทพมณเฑียร หรือ วัดฮินดู ถนนเสาชิงช้า และสนทนากับกรรมการวัดไทยฮินดู
โดยนายสมชาย กล่าวว่า การลงพื้นที่วัดซิกข์ และวัดฮินดู วันนี้ เพราะอยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตยนั้นใช้ได้ทุกชุมชน ทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าคนไทยศาสนาใด อีกทั้งวัดนี้สนับสนุนเรื่องการทำคุณงามความดี มีการทำอาหารไว้เลี้ยงประชาชนผู้มีรายได้น้อย และคนไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดที่ตกทุกข์ได้ยาก พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การต้อนรับ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะไปลงพื้นที่ใด พร้อมย้ำพรรคเพื่อไทยไม่ได้ลงพื้นที่เพื่อแสวงหาอำนาจ แต่เห็นว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเจอวิกฤติมากมาย จึงต้องทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ด้วยการทำนโยบายให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคยังทำได้ และเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้ามาทำงาน
ด้านนางพวงเพ็ชร กล่าวว่า หลังจากการรับสมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ เสร็จสิ้น เมื่อทราบเบอร์แล้ว ผู้สมัครทุกคนต้องเร่งลงพื้นที่ เพื่อบอกกล่าวให้ประชาชนเข้าใจว่า แต่ละเขตได้เบอร์อะไร รวมถึงบอกเบอร์พรรค และในเวลาที่เหลือก่อนการเลือกตั้ง ทุกคนต้องเร่งทำงาน และบอกถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ขณะที่นายดนุพร กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่ กกต.จะเรียกชี้แจงถึงที่มาของเงินในนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า หลังจากนี้ทีมเศรษฐกิจจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรถึงแหล่งเงินว่านำมาจากไหนบ้าง พร้อมย้ำพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องวินัยการเงินการคลัง แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะกู้เงินในช่วงโควิด-19 แต่เชื่อว่าพรรคจะตอบได้ เพราะคิดไว้ตั้งแต่แรกว่า การหาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 5 แสนล้านบาทนี้ จะมาจากหลายส่วน และเชื่อว่าจะตอบได้ เพราะคิดมาตั้งแต่ทำนโยบาย โดยหลังจากชี้แจง กกต. เสร็จแล้ว จะเผยแพร่เอกสารให้ประชาชนทราบว่า เงินนั้นจะมาจากไหน และจะได้กลับคืนมาในรูปแบบใด
นายดนุพร ยังมองเป็นเรื่องปกติที่หลายพรรคการเมืองจะโจมตีนโยบายนี้ เพราะในประเทศไทยถือเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้น พรรคจะเดินก้าวไปกว่าคนอื่น 2 ก้าว เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกัน พรรคจะปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงเจรจาการส่งออกควบคู่ไปด้วย และเชื่อว่าหลัง 6 เดือน หลังเริ่มทำนโยบายนี้ จะไม่ต้องเติมเงินให้ประชาชนอีก มั่นใจภายใน 4 ปี จีดีพีจะโตขึ้นเฉลี่ยถึง 5% ได้