กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-ปั๊มเอ็นจีวีทยอยลดจำนวนลง หลังยอดใช้ลดฮวบ ตามการลอยตัวราคาและราคาน้ำมันต่ำ ธพ.เตรียมปรับแผนใหม่ พร้อมกับปรับเปลี่ยนการอุดหนุนบัตรส่วนลดลง เล็งเสนอยกเลิกอุดหนุนแอลพีจีหาบเร่แผงลอย
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า จำนวนสถานีบริการจำหน่ายเชื้อเพลิงผันแปรตามราคาและนโยบายภาครัฐที่ลอยตัวราคาก๊าซฯ ทำให้ล่าสุดเดือน เม.ย.2560 จำนวนปั๊มน้ำมันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 26,880 แห่ง จากเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 1,295 แห่ง ส่วนปั๊มแอลพีจี แม้ยอดใช้จะลดลง แต่จำนวนปั๊มยังเพิ่มขึ้น19 แห่ง มี 2,091 แห่ง ส่วนปั๊มเอ็นจีวีลดลง 27 แห่ง เหลือ 461 แห่ง โดยในส่วนของเอ็นจีวี ยอดขายเหลือเพียง 6,434 ตัน/วัน จากที่เคยสูงสุดกว่า 9,000 ตัน/วัน และประเมินว่า ยอดขายจะลดลงอีกต่อเนื่อง โดยรถเก่าที่ครบกำหนดเปลี่ยนถังหรืออุปกรณ์เอ็นจีวี คงจะถอดออก แล้วเปลี่ยนน้ำมันเพื่อความสะดวกหากราคาน้ำมันยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำต่อเนื่อง
“ขณะนี้รถที่ติดตั้งเอ็นจีวีทั้งรถบรรทุก รถแท็กซี่ที่ครบวาระซ่อมบำรุง ก็จะทยอยถอดออก มาใช้น้ำมันสะดวกกว่า ปั๊มจะลดลงถึงขั้นสูญพันธุ์หรือไม่ ก็ต้องตามดู คงไม่ยกเลิกทั้งหมดเพราะจะกระทบกับแรงงาน ซึ่ง ปตท.ก็ต้องปรับแผนอย่างหนักรับการเปลี่ยนแปลง”นายวิฑูรย์กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า แผนเอ็นจีวีที่กำลังจะปรับเปลี่ยนรองรับการเปลี่ยนแปลง คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จในไตรมาส 3 ปีนี้ เพราะส่วนหนึ่งจะดำเนินการไปพร้อมๆกับมาตรการของรัฐบาลที่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยในส่วนที่กรมฯช่วยพิจารณา เช่น บัตรส่วนลดเอ็นจีวีจะยกเลิก หรือนำไปอุดหนุนด้วยแนวทางอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงการอุดหนุนแอลพีจีผู้มีรายได้น้อยด้วย โดยเฉพาะในส่วนของหาบเร่แผงลอยหรือห้องแถว เพราะที่ผ่านมามีการอุดหนุน แต่ก็พบว่าราคาแกงถุง ข้าวราดแกง ก็ปรับขึ้นตลอด แสดงว่า ผู้บริโภคไม่ได้ประโยชน์ส่วนนี้
นอกจากนี้จะทบทวน แผนที่เคยจัดทำไว้ ว่าจะส่งเสริม ปตท.ร่วมกับสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อจัดตั้งสถานีบริการเอ็นจีวีแนวท่อสำหรับกลุ่มรถบรรทุกจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย บริเวณถนนมิตรภาพ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 สถานี และบริเวณถนนพหลโยธิน อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทำการของสมาคมฯ จำนวน 1 สถานี และบริเวณถนนมิตรภาพ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2 สถานี (2 ฝั่งของถนน) แต่พบว่าเปิดสถานีบริการเอ็นจีวีสำหรับรถบรรทุกที่สระบุรีได้เพียง 1 แห่งเท่านั้น ซึ่งแผนขยายสถานีบริการเอ็นจีวีอีก 3 แห่ง คงต้องชะลอไปก่อน ด้วยเหตุผลที่รถบรรทุกบางส่วนหันไปใช้น้ำมันดีเซลมากกว่าเอ็นจีวี -สำนักข่าวไทย