23 มี.ค. – “พล.ต.ต.ปิยะอนันต์” ผบก.ตม.1 ลงดาบสอง หลังให้ออกจากราชการ สั่งตั้งกรรมการสอบฟันวินัยร้ายแรง 5 ตำรวจอุ้มสาวจีนตบทรัพย์
พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ลงนามคำสั่งที่ 30/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ด้วย (1.)พันตำรวจตรี สรวิศ อินทร์ลับ สาวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (2.) พันตำรวจตรี จิรภัทร บุญนำ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (3.) ร้อยตำรวจโท ประวิต พลจังหรีด รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (4.)ร้อยตำรวจโท สุริยะ รุกชชาติ รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน (สายงานสืบสวน) กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และ (5.) ดาบตำรวจ พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 มีกรณีต้องหาคดีอาญา
กรณีที่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2566 ข้าราชการตำรวจกลุ่มดังกล่าว มีพฤติการณ์ ได้ร่วมกันควบคุมตัวนายต้าเกอ สัญชาติจีนและนางมีนา ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลจำนวนหลายคัน จากบริเวณบ้านเลขที่ 800/64 ซอยตระกูลสุข แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร มายังบริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พร้อมทำการขับวนไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยกับนายต้าเกอ และนางมีนา มีการถ่ายภาพหนังสือเดินทางและข่มขู่นายต้าเกอ ว่าได้กระทำความผิดอาญา พร้อมเรียกรับผลประโยชน์ สุดท้ายนายต้าเกอ ตกลงยอมจ่ายเงินเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท โดยโอนผ่านระบบ E-token เมื่อมีการโอนเงินเรียบร้อย พันตำรวจตรี สรวิศ กับพวก จึงได้นำตัวนายต้าเกอ และนางมีนา มาส่งยังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ การกระทำดังกล่าว ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับข้าราชการตำรวจดังกล่าวต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตามหมายจับที่ จ.55-58/2566 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2566 และบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาคดีอาญา ที่ 216 /2566 ของสถานีตำรวจนครบาลดินแดง ลงวันที่ 22 มีนาคม 2566 อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 119 ประกอบ มาตรา 178
จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
(1)พันตำรวจเอก ภาสกร รัตนปนัดดา รองผู้บังคับการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เป็นประธานกรรมการ
(2)พันตำรวจเอก พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เป็นกรรมการ
(3.)ว่าที่ พันตำรวจเอกหญิง ธัญดา เลาห์ทวี ผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เป็นกรรมการเป็นกรรมการ
(4.)ว่าที่พันตำรวจตรีหญิง วาสนา เทพประสิทธิ์ สารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
(5.)ร้อยตำรวจโทหญิง จุฑารัตน์ เง็กเอี่ยม รองสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบสวน ดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งหากคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็วสั่ง ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2566 “คำสั่งดังกล่าวระบุ. -สำนักข่าวไทย