ทำเนียบฯ 22 มี.ค.-ฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ครบรอบ 1 ปี ค้าขายระหว่างกัน 3.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จากปีก่อนหน้า ซาอุฯ มุ่งลงทุนพลังงานใน EEC 3 แสนล้านบาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย- ซาอุดีอาระเบีย ครบรอบ 1 ปี ทำให้การค้าระหว่างกัน ในปี 2565 มูลค่า 323,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.64 ผ่านความร่วมมือ 9 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านแรงงาน ด้านอาหาร รวมถึงความร่วมมือใน ด้านสุขภาพ ด้านพลังงาน ด้านการศึกษาและศาสนา ด้านความมั่นคง ด้านกีฬา และด้านการค้าและการลงทุน
ทั้งภาครัฐและเอกชน ในฝ่ายไทยสนใจลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าตกแต่งภายใน ส่วนซาอุดีอาระเบีย สนใจลงทุนด้านพลังงานในพื้นที่ EEC พร้อมลงทุนสูงถึง 300,000 ล้านบาทในเขต EEC นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) ขยายความร่วมมืออีกหลายฉบับ จับคู่เจรจาธุรกิจ ระหว่างภาครัฐซาอุดีอาระเบีย และ ภาคเอกชนไทย มากกว่า 500 คู่ คาดว่าจะเกิดมูลค่าการค้าใหม่ 3 หมื่นล้านบาท และสร้างการลงทุนระหว่างกันมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2566
ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 17 ของไทยในตลาดโลก และอันดับ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบียเป็นมูลค่า 71,386 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.46 ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวก รถยนต์และชิ้นส่วน เครื่องปรับอากาศ อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ และผลิตภัณฑ์ยาง และนำเข้าสินค้าจากซาอุดีอาระเบียกว่า 251,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.69 ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้านํ้ามันดิบ นํ้ามันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ และเคมีภัณฑ์
ด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาเที่ยวไทยกว่า 1 แสนคน มากกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด มีท่องเที่ยวเข้ามา 3 หมื่นคนต่อปี คาดว่าด้วยความนิยม ชื่อเสียงด้านเมืองจุดหมายปลายทางของไทย และการเดินทางระหว่างกันที่สะดวกสบายมากขึ้นผ่านเที่ยวบินตรง ทำให้นักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นจำนวนมาก และเมื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านสังคม แรงงาน จะช่วยขยายโอกาสด้านอื่นเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย