กกต. 10 มี.ค.- “สนธิญา” ร้อง กกต. เรียก “วีระศักดิ์-อบจ.โคราช” ชี้แจง หลัง “นพ.ชลน่าน” บอกเอี่ยวร่วมทำเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งโคราช คิดดีๆ ถ้าจะฟ้องกลับ หากใส่ร้ายพรรคจะโดน 2 เท่า
นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบจากจากกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยพาดพิงถึงนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลักษณะว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เป็นส่วนเดียวกับพรรคเพื่อไทยเพื่อจะนำไปสู่การแลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดนครราชสีมา และกรณีที่กล่าวว่า อบจ.นครราชสีมา เป็นกลุ่มเดียวกัน โดยขอให้ กกต.เรียกนายวีรศักดิ์และ อบจ.นครราชสีมา มาสอบถามว่าสิ่งที่นพ.ชลน่าน กล่าวถึงนั้นเป็นความจริงหรือไม่ มีส่วนเกี่ยวพันและมีส่วนร่วมกันในการไปสู่การแลนด์สไลด์กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่ง อบจ.นครราชสีมา มีข้าราชการลูกจ้างกว่า 200 คน มีโรงเรียนในสังกัดมากกว่า 10 แห่ง
นายสนธิญา ระบุว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวนี้เชื่อมโยงกับกฎหมายจำนวน 3 ฉบับคือรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคได้ ซึ่งตนก็ขอให้พึงระวัง เพราะการเลือกตั้งที่จะมาถึงมีการแก้ไขกฎระเบียบ กฎหมายที่เข้มขึ้น ไม่อยากให้มีพรรคการเมืองถูกยุบ แต่ที่มาร้องขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน เนื่องจากเป็นการกล่าวของ นพ.ชลน่าน ผูกพันธ์ไปถึงทุกคนที่ถูกกล่าวถึง จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องเรียกมาตรวจสอบ ดังนั้นหากพบว่าไม่จริงก็จะมีผลอย่างหนึ่ง หากจริงก็จะมีเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28,29 ที่ห้ามให้บุคคลภายนอกมายุ่งเกี่ยว และนำไปสู่การยุบพรรคได้ ส่วนหากให้การอันเป็นเท็จ เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง ก็จะนำไปสู่มาตรา 73(5) ของ พ.ร.ป ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในคะแนนนิยม สุดท้ายแล้วก็จะไปสู่การยุบพรรคเช่นกัน โดย กกต.ตรวจสอบให้ชัดเจน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมจะฟ้องตนเองนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ขอให้พึงระวังพิจารณาให้ดี ไม่ว่าจะร้องในนามส่วนตัวหรือในนามพรรคแล้วใส่ร้ายด้วยความเท็จพรรคก็จะถูกดำเนินคดีเป็นสองเท่า และนำไปสู่การยุบพรรค ตนเองร้องตามที่ นพ.ชลน่าน ได้เคยระบุไว้ ตนไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดหรือไม่ แต่ขอให้มีการตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบแล้วผิดหรือไม่ ก็นำไปสู่การพิจารณาในข้อประเด็นกฎหมายต่อไป ทุกคนมีสิทธิร้องหมด ตนเองโดนฟ้องร้องมาแล้วกว่า 10 คดี แต่เรียนว่าสิ่งที่ตนทำทุกสิ่งทุกอย่างเรียนว่าตนพูดจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ไม่เคยมโน เพราะฉะนั้นถ้าฟ้องตนก็ต้องพึงระวังตนตัวคนเดียว อย่าไปเพิ่มมูลเหตุโดยไม่จำเป็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังนายสนธิญา ยื่นคำร้องเสร็จสิ้น ก็ได้มีการพูดคุยกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ที่มารอติดต่อขอเข้าพบเลขาธิการ กกต. โดยได้มีการสอบถามถึงประเด็นที่นายสนธิญา มาร้อง และสอบถามถึงเรื่องที่ถูกตีตก และเหตุผล รวมถึงนายสมชัย ก็ได้บอกให้นายสนธิญา กระตุ้นการทำงานของ กกต. เนื่องจากเห็นว่าบางครั้ง กกต.ออกระเบียบมาแล้วไม่ทำตาม .- สำนักข่าวไทย