กระทรวงการต่างประเทศ 9 มี.ค.-โฆษก กต. เผยประสานครอบครัว “ลุงบุญชู” แล้ว เตรียมเดินทางไปเกาหลีใต้ 11 มี.ค.นี้ ยันให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ในต่างแดนเต็มที่ ไม่ว่าไปถูกกม.หรือไม่ ชี้การไปแบบผิดกม.กระทบคนไทยที่ไปเที่ยว
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือกรณีนายบุญชู ชายชาวไทยที่ทำงานในฟาร์มหมูเกาหลีใต้เสียชีวิต ว่าได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ว่าได้ประสานกับนางมะลิ ภรรยาและลูกชายนายบุญชูแล้ว ทราบว่าจะเดินทางไปเกาหลีในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ซึ่งทางสถานทูตจะช่วยประสานงานด้านต่าง ๆ ให้ และขึ้นอยู่กับครอบครัวว่าจะจัดการศพอย่างไร
“โดยปกติแล้วหากเป็นคนไทย ไม่ว่าจะเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายก็ตาม ทางสถานทูตพยายามช่วยเหลือเท่าที่สามารถทำได้ แต่เรื่องการนำศพกลับมาทำพิธีที่ประเทศไทยจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งหลักการเป็นเรื่องที่ทางครอบครัวต้องรับผิดชอบเอง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมให้บางครอบครัว ทำไมไม่ให้บางครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีฌาปนกิจให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำอัฐิกลับมา เพราะการนำร่างกลับจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ส่วนกรณีไม่เสียชีวิตแต่ต้องการกลับแล้วไม่มีเงิน สามารถทำสัญญากู้ยืมกับทางสถานทูตได้ แต่ต้องชดใช้ในภายหลัง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
นางกาญจนา กล่าวเตือนคนไทยที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศว่าขอให้ไปโดยช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไปทำงานที่เกาหลีมีระบบส่งแบบรัฐต่อรัฐ ผ่านกรมการจัดหางาน โดยแต่ละปีจะมีโควตา และทราบว่ายังไม่เต็ม แต่ต้องสอบภาษาเกาหลี จึงทำให้เกิดการหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือเข้าไปทำงานผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการคุ้มครอง แต่หากเป็นคดีอาญาต้องว่าไปตามกฎหมาย
“สำหรับกรณีนายบุญชู ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ยังไม่ชัดเจน ส่วนเจ้าของฟาร์มถูกคุมขังอยู่ที่สถานีตำรวจ นอกจากนี้การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายยังส่งผลกระทบต่อคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวถูกกฎหมายด้วย จึงเกิดกรณีที่มีคนถูกส่งกลับ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย