สำนักงานกกต. 3 มี.ค.-“สมชัย” ขอนัดเจอเลขาฯกกต.อีกรอบ ถ้าไม่ให้เจอ เตรียมร้องกองปราบเอาผิดกกต.ยกชุด หลังไม่ปลื้มคำชี้แจงตีตกคำร้องพรรคลุงตู่ ปมขนคนฟังปราศรัย – แจกของวันเปิดตัว พร้อมร้องยุบพรรครทสช.เหตุ “ไตรรงค์” ปราศรัยดึงสถาบัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายวีระ สมความคิด ประธานประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชั่น พรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาที่สำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อพบนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.เพื่อขอคำชี้แจงหลังสำนักงานกกต.มีหนังสือแจ้งไม่รับคำร้องที่นายสมชัย ยื่นขอให้กกต.ตรวจสอบกรณีการขนคน และแจกทรัพย์สินให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เดินทางเขารับฟังการปราศรัยเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสมัครสมาชิกพรรค ในการประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 แต่นายแสวง ติดภารกิจ นายสมชัยและนายวีระ จึงได้พบกับผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนสอบสวน 1 สำนักงาน กกต.แทน
ภายหลังรับฟังคำชี้แจงนายสมชัย กล่าวว่า ทางผอ.สืบสวนฯ ของกกต.ชี้แจงเหตุผลที่กกต.ไม่ได้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาว่าเนื่องจากอยู่ในกรอบระยะเวลา 180 วัน และยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งคำชี้แจงนี้ไม่ได้มีอยู่ในหนังสือที่ส่งกลับมายังตน และส่วนตัวก็เห็นว่าเป็นคำชี้แจงที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะที่ผ่านมา กกต.ได้เตือนให้พรรคการเมืองและผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งระมัดระวังการหาเสียงในช่วงระยะเวลา 180 วัน อีกทั้งระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงก็เขียนไว้เป็นความผิดอย่างชัดเจน ดังนั้น จะบอกว่ายังไม่มีพระราชกฤษฎีกา จึงเป็นเหตุให้ไม่รับคำร้องเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุผล นอกจากนี้ที่อ้างว่าตนไม่ใช่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยผู้ที่จะร้องได้ต้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เห็นว่าถ้ายกเหตุผลดังกล่าวจะไม่มีใครในประเทศนี้สามารถยื่นคำร้องได้เลย การอ้างเหตุดังกล่าวจึงเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ เลยต้องการที่จะปัดตกคำร้องแบบง่าย ๆ
“หลังจากที่ผอ.ของกกต.ได้อธิบายเหตุผลแล้วได้มีโอกาสพูดคุยเป็นการส่วนตัว และได้สอบถามว่าหนังสือคำร้องที่ผมส่งมาระบุวันเวลาเกิดเหตุพยานหลักฐาน พยานบุคคลครบถ้วนหรือไม่ มีอะไรที่ขาดไปหรือไม่ ซึ่งผอ.คนดังกล่าว ก็บอกความคิดของตัวเองว่าเห็นว่าคำร้องมีความชัดเจน ดังนั้น จึงเห็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ แต่เป็นการวินิจฉัยตีตกคำร้องของ กกต.ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 14 ก.พ.” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า อยากได้ความชัดเจนถึงเหตุผลที่กกต.ยกคำร้องนี้ จึงอยากขอนัดพบนายแสวงอีกครั้ง และจะให้เวลารวบรวมข้อมูลและจะขอนัดมาพบในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 ถ้ายังไม่ได้พบหรือยังไม่มีความชัดเจน ในสัปดาห์ถัดไปตนและนายวีระจะไปแจ้งความที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับกกต.ทั้ง 7 คน
นายสมชัย กล่าวว่า ได้ยื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้พิจารณาและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นสั่งยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติปราศรัยพาดพิงสถาบันฯ ในเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าการปราศรัยดังกล่าวผิดต่อระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงที่ระบุชัดว่าห้ามนำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงผิดมาตรา 73 (5) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่กำหนดที่ห้ามให้ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในคะแนนนิยม
“หากพบความผิด มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปีรวมทั้งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามมาตรา 92 (2) ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ต้องถูกยุบพรรคการเมือง ซึ่งตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง 2566 ที่กำหนดให้เลขาฯ กกต. จะรับหรือไม่รับพิจารณาคำร้องดังกล่าวภายใน 7 วัน ดังนั้นในวันที่ 10 มีนาคมจะครบระยะเวลา 7 วัน ก็จะมาติดตามและสอบถาม หากไม่ได้มีการพบว่านายแสวง ยังไม่ดำเนินการใดๆกับคำร้องนี้ เดี๋ยวจะมีการแจ้งความเอาผิดนายแสวง อีกคนหนึ่งด้วย” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย