กรุงเทพฯ 3 มี.ค. – “สนธิญา” ร้อง ปอท. ตรวจสอบเอาผิด “พลภูมิ-อ๋อม สกาวใจ” โพสต์ข้อความเท็จ กล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีมาจากการปล้นอำนาจ
เวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (3 มี.ค.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายสนธิญา สวัสดี เข้าพบ ร.ต.อ.รัชพล เทียมสะคู รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อร้องให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 คน คือ
1.นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม คันนายาว และ “อ๋อม” สกาวใจ พูลสวัสดิ์ โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีมาจากการปล้นอำนาจจากประชาชน ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งความจริงนายกรัฐมนตรีมาตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 และ 159 มาจากการโหวตของ ส.ส. ในสภาฯ และได้รับเสียงข้างมาก ไม่ได้ปล้นอำนาจมาจากผู้ใดหรือมาจากประชาชนแต่อย่างใด เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายสนธิญา กล่าวว่า การเข้ายื่นหนังสื่อร้องเรียนในวันนี้เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแอคเคาน์ที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นของทั้งคู่หรือไม่ และที่มีการกล่าวหานายกรัฐมนตรีมีความเป็นจริงหรือไม่ และสุดท้ายหากข้อความดังกล่าวเข้าข่ายการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ตนยังต้องการให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตาอีก 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือ วันนี้จะมีการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ตนเคยไปร้องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาใช้ในการคำนวณเพื่อกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่สามารถทำได้นั้น เท่ากับว่าการเลือกตั้งในปี 2562 ถือเป็นโมฆะ ถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ
ประเด็นที่ 2 ที่ตนไปร้องกับ กกต. เรื่องบทบาทและหน้าที่ของผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ที่ตอนนี้เริ่มขึ้นเวที อออกมาช่วยนักการเมืองแต่ละพรรคหาเสียง สามารถทำได้หรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีสิทธิที่จะลงสมัคร ส.ส. หรือไปเลือกตั้ง หรือการลงประชามติอะไรก็ตาม ซึ่งผู้ชี้ขาดคือศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ที่ตนไปร้อง กกต. เพื่อให้ศาลฯ ชี้ขาดว่าสิทธิคนเหล่านี้สามารถที่จะทำแบบที่กล่าวมาได้หรือไม่ เพราะจะมีผลผูกพันไปยังพรรคการเมืองนั้นๆ ด้วย
ประเด็นที่สุดท้ายที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้ขึ้นปราศรัยที่นครราชสีมา และได้มีการนำคำสอนหรือพระบรมราโชวาทของสถาบันหนึ่งสถาบันใดไปบอกกล่าวพี่น้องประชาชนนั้นผิดหรือไม่ ดังนั้น ต้องแยกให้ออกว่าอันไหนคือการการกล่าวอ้างสถาบันเพื่อมาแอบอ้าง หรือคำไหนคือการเผยแพร่คำสอนเศรษฐกิจพอเพียงกันแน่
ทั้งนี้ ตนอยากจะเตือนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จะพูดอะไรให้ระวัง เพราะเรื่องที่พูดอาจจะส่งผลสืบเนื่องไปถึง พ.ร.บ.การเลือกตั้งด้วย การใส่ร้าย ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ การทำให้ผู้อื่นเสียหาย จะส่งผลให้มีการตัดสิทธิทางการเมืองได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสนธิญา และตรวจสอบหลักฐานที่นำมาร้องให้ตรวจสอบ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.-สำนักข่าวไทย