นครราชสีมา 1 มี.ค. – เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูโอด ราคารับซื้อหมูหน้าฟาร์มราคาตกต่ำ จากเดิมช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ราคาสูงถึง 120 บาท ล่าสุดตกต่ำลงเหลือแค่กิโลกรัมละ 85 บาท
เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บอกว่า ต้องแบกรับภาระต้นทุนในการเลี้ยงหมู เฉลี่ยตัวละ 6,000 บาท ใช้เวลาเลี้ยงนาน 7-8 เดือน กว่าหมูจะโตจนได้น้ำหนักตัว 100 กิโลกรัม ตอนนี้มีพ่อค้ามาติดต่อรับซื้อหมูตัวเป็น ๆ ที่หน้าฟาร์ม แค่กิโลกรัมละ 85 บาท หรือหมูตัวละ 100 กิโลกรัม รับซื้อในราคาตัวละ 8,500 บาท จากเมื่อก่อนได้ราคาสูงถึงตัวละ 12,000 บาท เมื่อหักลบค่าใช้จ่าย ต้นทุนค่าหัวอาหาร จะเหลือกำไรจากการขายหมูตัวแค่ละ 2,500 บาท นับว่าเป็นกำไรที่น้อยมากหากเปรียบเทียบกับระยะเวลาในการเลี้ยงหมูหลายเดือน เพราะกว่าหมูจะโตก็สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมาย
ปัจจุบันราคาอาหารหมูตกกระสอบละ 900 บาท จากเมื่อก่อนกระสอบละ 720 บาท จึงทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงหมูสูงขึ้น จึงอยากให้ทางภาครัฐหรือพ่อค้าที่มารับซื้อหมูเห็นใจเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูด้วย เพราะต้นทุนสูงมาก สถานการณ์ราคารับซื้อหมูหน้าฟาร์มกับราคาขายเนื้อหมูหน้าเขียง ไม่สอดคล้องกัน อยากให้มีความสมดุลสมเหตุสมผลมากกว่านี้.
นายพรชัย ศรีสุข เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู อ.เมือง จ.ตรัง บอกว่า สาเหตุที่ราคาหมูหน้าฟาร์มลดลง อาจเป็นเพราะช่วงที่ราคาหมูหน้าฟาร์มพุ่งสูงทำให้เกษตรกรหันเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้น ทำให้มีหมูออกสู่ตลาดจำนวนมาก
ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง เฉลี่ยขาดทุนตัวละ 600-700 บาท และเกษตรกรบางรายหยุดเลี้ยงไปแล้ว เพราะแบกรับภาระต้นทุนต่าง ๆ ไม่ไหว ส่วนฟาร์มของตนซึ่งมีหมูอยู่ในฟาร์มประมาณ 400 ตัว ยังพออยู่ได้เพราะใช้อาหารที่ผสมเอง โดยรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์
แต่วัตถุดิบที่นำมาผสมผลิตอาหารปรับขึ้นเยอะมากทุกชนิด เช่น กากเมล็ดในปาล์มน้ำมันปาล์ม ซึ่งซื้อได้จากในพื้นที่ จากกิโลกรัมละ 5 บาท ปรับเป็นกิโลกรัมละ 6.5 บาท ปลาบ่น จากเดิมกิโลกรัมละ 29-30 บาท ปรับเป็นกิโลกรัมละ 40 บาท เช่นเดียวกับวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างจังหวัดตั้งแต่ภาคกลางขึ้นไป ทั้งรำข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ก็ปรับราคาสูงขึ้นเช่นกัน. – สำนักข่าวไทย