กรุงเทพฯ 4 ม.ค.- นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเผย เตรียมพาผู้เลี้ยงรายย่อยเข้าหารือกับรมว. ธรรมนัส ขอให้แก้ปัญหาราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำ จนขาดทุนต่อเนื่อง 11 เดือนแล้ว เป็นผลกระทบจาก “หมูเถื่อน” ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูง ซ้ำเติมด้วย “หมูถูก” จากการที่ผู้เลี้ยงรายใหญ่ที่มีร้านค้าปลีกเองและโมเดิร์นเทรดตั้งราคาจำหน่ายปลีกต่ำมาก ทำให้กดราคาหมูหน้าฟาร์มจนต่ำกว่าต้นทุน
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกรียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ได้รับเรื่องจากชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ช่วยหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำ จนผู้เลี้ยงรายย่อยขาดทุนต่อเนื่อง 11 เดือน จึงได้ประสานให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ให้ดำเนินการ โดยจะเชิญผู้เลี้ยงรายใหญ่และโมเดิร์นเทรดเข้าร่วมหารือด้วย
ที่ผ่านมาราคาหมูหน้าฟาร์มได้รับผลกระทบจาก “หมูเถื่อน” ที่กดจนต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทั้งยังราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงต่อเนื่อง ซ้ำเติมด้วย “หมูถูก” เนื่องจากผู้เลี้ยงรายใหญ่ที่มีร้านค้าปลีกเองและโมเดิร์นเทรดตั้งราคาขายชิ้นส่วนหมูต่ำมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากผู้เลี้ยงรายใหญ่และโมเดิร์นเทรดในการตั้งราคาขายปลีก ไม่ให้ต่ำกว่าราคาต้นทุนฟาร์มเพื่อให้ผู้เลี้ยงรายย่อยอยู่ได้ ไม่ล้มหายตายจากจากอาชีพ
นายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงรายใหญ่ครบวงจรที่นำมาตรการด้านราคาต่ำมาใช้ ทำให้ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ค้า และโรงเชือดต่างๆ ไม่สามารถแข่งขันได้ โดยกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่มีแหล่งจำหน่ายเองและขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
มาตรการราคาต่ำของชิ้นส่วนหมูที่ผู้ผลิตรายใหญ่นำมาใช้ กดราคาหมูตัวหรือราคาหมูหน้าฟาร์มทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นได้เช่น ร้านค้าปลีกของผู้ผลิตบางรายจำหน่ายหมูเนื้อแดงประมาณกิโลกรัม 100 บาทต้นๆ หากจัดโปรโมชัน ราคาจะลดลงไม่ถึง 100 บาท เป็นผลให้ราคาหมูตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาทต้นๆ เท่านั้น ทั้งที่ราคาหมูเนื้อแดงควรอยู่ที่ 140-150 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งจะทำให้ราคาหมูตัวปรับขึ้นเป็น 70-80 บาทต่อกิโลกรัมได้
ทั้งนี้ผู้เลี้ยงเคยร้องขอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ 2542 มาตรา 25 (1) (2) (4) กำหนดราคาซื้อหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ตามมาตรการที่ Pig Board มีมติ แต่ยังไม่เป็นผล
หากผู้เลี้ยงรายใหญ่ไม่ร่วมมือในการปรับราคาชิ้นส่วนไม่ให้ต่ำกว่าโครงสร้างต้นทุน กลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยจะร้องต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้พิจารณา “ธรรมาภิบาล” หรือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่เหล่านี้ ว่า ยุติธรรม โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดหรือไม่.- 512 – สำนักข่าวไทย