กรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 ม.ค. -ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประชุมร่วมกับตำรวจนครบาล 1 กรณี นพ.บุญ วนาสิน กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง หลังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นพ.บุญ กับพวกให้กับดีเอสไอ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.67
ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า อธิบดีดีเอสไอ ได้ใช้อำนาจอธิบดีมีคำสั่งรับคดี นพ.บุญ เป็นคดีพิเศษ ที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.67 ในวันนี้ (3 ม.ค.) เป็นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนครั้งแรก ร่วมกับทางตำรวจที่ได้ทำสำนวนคดีมาก่อนหน้านี้ และส่งให้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวนคดีที่มีความซับซ้อนทางเศรษฐกิจ และการติดตามทรัพย์ รวมถึงติดตามตัวผู้กระทำผิด ซึ่งคดีนี้มีการแจ้งข้อหา 16 ราย จับกุมแล้ว 13 ราย ฝากขังอยู่ในเรือนจำอีก 3 ราย มี นพ.บุญ และโบรกเกอร์อีก 2 ราย ยังหลบหนี ล่าสุดได้ประสานตำรวจสากล เพื่อติดตามตัวทั้ง 3 คน ที่หลบหนีไปต่างประเทศโดยเจ้าหน้าที่รู้เบาะแสแล้ว แต่ไม่ขอยังไม่เปิดเผยว่าหลบอยู่ที่ใด
รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี นพ.บุญ กล่าวอีกว่า คดีนี้มีผู้เสียหายที่แจ้งความไว้ 495 ราย มูลค่าความเสียหายสูงถึงกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนต้องเร่งดำเนินการในกรอบเวลาที่เหลือของการฝากขัง ที่จะทยอยครบกำหนด 21 ม.ค.นี้ โดยจะทำงานร่วมกับตำรวจอย่างใกล้ชิด และประสานอัยการคดีพิเศษเพื่อส่งสำนวนให้ทัน นอกจากนี้ ได้ประสาน ปปง.เร่งรัดติดตามทรัพย์สินของ นพ.บุญ กับพวก ที่มีทั้งรถยนต์ ที่ดิน หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตำรวจก็ได้ยึดไว้ บางส่วนส่งให้ ปปง.จึงยังไม่สามารถสรุปจำนวนทรัพย์ที่ยึดอายัดได้
สำหรับคดี นพ.บุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้เสียหายบางรายเข้าร้องทุกข์ไว้กับดีเอสไอ และดีเอสไอเคยตั้งเลขสืบสวนไว้ จึงสามารถรับไปดำเนินการต่อได้ทันที โดยการรับเป็นคดีพิเศษจะดำเนินการสอบสวนทั้ง 5 โครงการที่มีการชักชวนให้ลงทุน.-119-สำนักข่าวไทย