อสส.ตั้ง 5 คณะทำงานตรวจสอบกรณีคำสั่งไม่ฟ้อง 5 คดีดัง

1 มี.ค. – อสส.ตั้ง 5 คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้อง 5 คดีดัง “เสี่ยกำพล-มาวินเบต-เเทนไท-ยา 4 เเสนเม็ด-บริษัทเปรมชัยรุกที่ป่า” ให้มีอำนาจเรียกเอกสาร เชิญอัยการให้ข้อเท็จจริงเสนอ อสส. เเละที่ประชุม ก.อ.


นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนและที่มีผู้มาร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา ที่ประชาชนให้ความสนใจและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีคณะทำงาน 5 คณะ ให้มีอำนาจและหน้าที่ตามข้อ 1-9 และรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสั่งคดีและข้อเสนอแนะอื่นๆ ตามที่เห็นสมควรต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการต่อไป

ส่วนรายละเอียดคำสั่งนั้น เป็นคำสั่งที่ 420/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข่าวสารและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสูงสุด ด้วยสำนักข่าวเเห่งหนึ่ง เผยแพร่ข่าว ต้องเร่งรัดกวาด ขยะใต้พรมที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีการกล่าวถึงมีคดีจำนวนหลายคดีที่กลายเป็นภาระและเป็นขยะใต้พรม ที่ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ต้องเร่งเก็บกวาด ขณะที่เวลาที่อยู่ในตำแหน่งมีเพียง 1 ปี ซึ่งเวลาผ่านไปแล้ว 5 เดือน จึงเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกเพียง 7 เดือน ถ้าไม่สามารถสะสางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ได้หมด ภาระนี้จะกลายเป็นของผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนต่อไป


ซึ่งตามข่าวมี 5 คดี ประกอบด้วย คดีเผาสวนงูภูเก็ต, คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก, คดีนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก, คดีมาวินเบต ดอทคอม และคดียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 4 เเสนเม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี และมีคดีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก ตามหนังสือร้องเรียนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ฉบับลงวันที่ 14 ก.พ.66 ถึงประธาน ก.อ. อันเป็นกรณีเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 และมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรอัยการ และพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 จึงแต่งตั้งบุคคลต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข่าวสาร และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าว

โดยให้คณะทำงานทั้ง 5 ชุดมีอำนาจและหน้าที่ดังนี้ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ได้รับมอบหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงาน อัยการสูงสุด 2.จัดทำลำดับเหตุการณ์ (Timeline) ในการดำเนินคดีที่ได้รับมอบหมายตั้งแต่รับสำนวน และการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุม ก.อ. และสาธารณชน 3.เรียกสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา 4.เชิญพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือความเห็นประกอบการตรวจสอบ 5.เรียกเอกสารจากหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดที่เก็บรักษาเอกสารเพื่อประกอบ การพิจารณา และให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความร่วมมือจัดส่งเอกสารโดยพลัน

6.เชิญบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือความเห็นประกอบการตรวจสอบ และขอเอกสารหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้หัวหน้า คณะทํางานฯ แต่ละคณะมีอำนาจลงนามในหนังสือออก 7.ให้หัวหน้าคณะทํางานแต่ละคณะมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมได้ตามความจําเป็น และเหมาะสม 8.ให้หัวหน้าคณะทำงานแต่ละคณะมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคลดำเนินการอื่นใด เพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุน หรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานให้สำเร็จ ลุล่วง รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานได้ ตามที่เห็นสมควรและจำเป็น และ 9.รายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นเกี่ยวกับการสั่งคดี และข้อเสนอแนะอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควรต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการในโอกาสแรก. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว