กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ หากนโยบายทำได้จริง ดึงความเชื่อมั่นประชาชนและสร้างความมั่นใจนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยได้แน่ จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ 3-4%
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองที่ออกนโยบายหาเสียงพยายามที่จะเดินหน้าใช้แนวทางเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ดังนั้น อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนที่จะเลือกพรรคไหนให้เข้ามาเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล โดยคาดว่า หากได้รัฐบาลชุดใหม่ที่คาดว่าน่าจะเห็นได้ประมาณเดือนมิถุนายนหรือสิงหาคมนี้ คงจะมีความชัดเจนว่ารัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนในด้านลดค่าครองชีพอะไรบ้าง และที่สำคัญจะเป็นแนวทางสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติและนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ปีนี้
อย่างไรก็ตาม เพราะหากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่วางกรอบที่จะเข้ามาเสริมและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ โดยเข้ามาช่วยลดปัญหาด้านค่าครองชีพและเสริมให้รายได้สูงขึ้น ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยนช์ต่อประชาชนที่ประสบปัญหาผลกระทบด้านค่าครองชีพสูงมานานและต่อเนื่องได้ รวมทั้งแม้ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลชุดปัจจุบันจะเปิดประเทศและผ่อนคลายด้านการเดินทางจากปัญหาโควิด ทำให้เกิดการค้าและการลงทุน รวมถึงด้านการท่องเที่ยวก็ตาม ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่จะต้องสร้างความมั่นใจและแผนนโยบายด้านการส่งเสริมการค้า การลงทุน และด้านการท่องเที่ยวให้มีความชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติเพิ่มขึ้นว่า ประเทศไทยมีแผนและนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวอย่างเต็มที่และปลอดภัยสูง ดังนั้น จึงมองว่ารัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนบ้าง หากทุกแผนงานมีความชัดเจน เชื่อว่าจะดันให้เศรษฐกิจปี 66 เติบโตได้ 3-4% อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย