กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – ไทยสร้างไทย ประกาศนโยบาย “แก้หนี้เติมทุน” ด้วย “กองทุนสร้างไทย” จำนวน 300,000 ล้านบาท เพื่อช่วยฟื้นธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs และแก้หนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ เปิดโอกาสให้คนไทยเร่งสร้างรายได้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมนายการุณ โหสกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เขตดอนเมือง พบประชาชนที่ตลาดฝั่งโขง พร้อมปราศรัยประกาศนโยบาย “แก้หนี้เติมทุน” ด้วย “กองทุนสร้างไทย” 300,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนสามารถฟื้นธุรกิจตั้งต้นทำมาหากินกันได้ใหม่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พุ่งเกิน 30% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล เพราะเกินระดับเฝ้าระวังที่ 80% ต่อจีดีพี มาอยู่ที่ 86.8% ต่อจีดีพี ในไตรมาส 3 ของปี 2565 และหากไม่มีการวางแนวทางแก้ไข จะกระทบต่อระบบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างแน่นอน
พรรคไทยสร้างไทย จึงมีมาตรการในการ “แก้หนี้” แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1) ธุรกิจ ที่เป็นหนี้เสียจากปัญหาโควิด ภายใต้รหัส 21 ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้ง “กองทุนสร้างไทย” ขึ้นมา โดยจะพักหนี้ 3 ปี พักดอกเบี้ย 2 ปี โดยรัฐจะเป็นผู้ที่ออกให้ก่อน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยที่มีศักยภาพ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด
2) แก้หนี้ เติมทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยด้วย “กองทุนสร้างไทย” 300,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Start up เงื่อนไขผ่อนปรนและดอกเบี้ยถูก เพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัวได้หลังโควิด ซึ่งประกอบด้วย 4 กองทุนย่อย ได้แก่ กองทุน SMEs กองทุน Startup กองทุนวิสาหกิจชุมชน และกองทุน Venture Capital
รวมถึงมาตรการล้างหนี้นอกระบบให้ประชาชน ด้วย “กองทุนเครดิตประชาชน” หรือกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งจะเป็นการมอบเครดิตให้ประชาชนเพื่อล้างหนี้นอกระบบ ช่วยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงินที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ที่สำคัญคือไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเริ่มต้นกู้ได้ไม่เกิน 5,000 บาท และถ้ารักษาเครดิตได้ดีจะสามารถกู้ได้ถึง 50,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้อาจกู้ยืมไปใช้ในยามวิกฤติ ใช้เพื่อการตั้งตัว เอาไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของตนได้
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ไทยมีภาระหนี้สิน ทั้งของประเทศ ของภาคธุรกิจ SMEs และหนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ ประเทศจะเดินต่อได้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาหนี้ทั้งหมดนี้เสียก่อน และต้องเร่งสร้างรายได้ใหม่ให้คนไทย. – สำนักข่าวไทย