รัฐสภา 16 ก.พ.- “ชัยวุฒิ” ยัน “พล.อ.ประวิตร” ไม่เกี่ยวธุรกิจสีเทา หลัง “โรม” แฉภาพคู่เครือข่ายตู้ห่าวในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ชี้ ธุรกิจสีเทามีมานานเกี่ยวทุกอดีตนายกฯ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึง การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในภาพรวม ว่า ขอบคุณฝ่ายค้านที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลหลายเรื่องถือว่าสั่งสมมานาน รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ และจะนำไปสู่นโยบายต่างๆ ของพรรคการเมืองในรัฐบาลหน้าเพราะรัฐบาลนี้คงทำไม่ทันแล้ว โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจสีเทา รัฐบาลพยายามปราบปรามมานานแล้ว แต่ที่เป็นข่าวเยอ ะเพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เอาจริงเอาจังในการจับกุมดำเนินคดี ซึ่ งธุรกิจเหล่านี้ทำมานานแล้วเป็น 10 ปี ไม่ใช่เพิ่งจะมีในสมัยนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องมีปัญหา แต่เราก็ต้องแก้ที่กฎหมายกฎระเบียบเพื่อที่จะลดปัญหาเหล่านี้
ส่วนที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจสีเทาว่าได้เงินสนับสนุนพรรคการเมือง นายชัยวุฒิ ระบุว่า ตนไม่ทราบ ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ไปตรวจสอบผิดถูกว่าไปตามกฏหมายและระเบียบที่เอื้อให้เกิดธุรกิจสีเทา ซึ่งปัญหาสังคมไทย ยังมีกฎหมายที่ล้าสมัยและปฎิบัติไม่ได้จริง ดังนั้นหน้าที่คือต้องนำกฎหมายกฎระเบียบมาดูว่าสิ่งใดที่ล้าสมัย ก็นำมาปรับปรุงเพื่อให้ใช้ได้จริง อะไรที่ล้าสมัยก็ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจไปได้โดยไม่ต้องจ่ายส่วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราผลักดันเรื่องนี้และจะนำไปพูดคุยในพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนประเด็นดังกล่าวนี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกพรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าธุรกิจสีเทามีมาทุกยุคสมัยและจะวิ่งเข้าหาผู้มีอำนาจในอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคน ก็มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในทุกยุคทุกสมัย แต่ยืนยันได้ว่า ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาเหล่านี้ ส่วนที่มีภาพปรากฏว่าไปถ่ายรูปกับคนดัง ก็ทำมาทุกยุคทุกสมัย และธุรกิจที่เติบโตมาจนถึงขณะนี้ ไม่ใช่เพิ่งจะเติบโตแต่ทำกันมานานแล้ว
สำหรับกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดภาพเพื่อนสนิทของนายตู้ห่าว ถ่ายรูปกับพล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องให้ความเป็นธรรมกับพลเอกประวิตรด้วย เช่นเดียวกับ เวลาที่ตนไปงานและถ่ายรูป เราก็ไม่รู้ว่าใครทำธุรกิจสีขาวหรือสีเทา และเชื่อว่าพลเอกประวิตรก็ไม่รู้จัก เพราะเจอคนทั้งวัน เพราะ เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นของทุกคนทุกกลุ่มอาชีพ
นายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึง พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า พระราชกำหนดฉบับนี้ อยู่ระหว่างการวางมาตรการต่างๆ เพราะผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีส่วนช่วยตามคดีเส้นทางทางการเงิน ที่ผิดกฎหมายได้ และจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจในการอายัดบัญชีที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับบัญชีที่ผิดกฎหมาย โดยเข้าไปหยุดบัญชีที่ผิดกฎหมายก่อนภายใน 7 วัน หากเจ้าของบัญชีทำธุรกิจถูกต้องก็สามารถแจ้งยืนยันว่าตนทำธุรกิจถูกต้อง ก็จะเปิดให้ใช้บัญชีได้ พร้อมเตือนประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าว่าขณะนี้มีโทษหนัก จำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท ใครที่รับจ้างให้ไปยกเลิก ไม่เช่นนั้นมีความผิดทันที.-สำนักข่าวไทย