เมียนมา 21 พ.ย. – ชนวนเหตุความระส่ำระสายในเมียนมาขณะนี้ มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจสีเทาในเมืองชายแดนติดกับจีน ล่าสุดทางการจีนประกาศว่า ได้รับมอบผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมไซเบอร์ในรัฐฉาน ของเมียนมา แล้วถึง 31,000 คน
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนประกาศในวันนี้ว่า ในจำนวนผู้ต้องสงสัย 31,000 คนนี้ มี 63 คน เป็นระดับผู้บงการ และแกนนำ และยังมีอีกกว่า 1,500 คน ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี
นอกจากนั้นรายงานสื่อจีนยังระบุด้วยว่า ทางกระทรวงได้ออกคำสั่งในหน่วยงานในพื้นที่ของมณฑลยูนนาน ประสานงานกับหน่วยงานของเมียนมาเพื่อรักษากฎหมายในพื้นที่ชายแดนมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว จนกระทั่งในเดือนนี้ ได้เร่งรัดความร่วมมือกับเมียนมา ในการปราบปรามอาชญากรรมจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาสำคัญ รวมถึงสมาชิกของหนึ่งในหลายตระกูลหลักที่ก่อการคือ ตระกูล หมิง หัวหน้ากลุ่มอาชญากรในเขตปกครองตนเองโกก้าง ของรัฐฉาน
ปัญหาจีนเทาในรัฐฉาน ซึ่งมีชาวไทยหลายร้อยคนเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งในฐานะอาชญากร และเหยื่อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่กองกำลังชาติพันธุ์ ในชื่อพันธมิตรสามพี่น้องเปิดปฏิบัติการ 1027 ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วรุกไล่ทหารรัฐบาลจากที่มั่นกว่าร้อยแห่งและยึดเมืองสำคัญ ๆ ได้มากมายพร้อมกับขับไล่กลุ่มธุรกิจสีเทาในช่วงกว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากวิเคราะห์กันว่าจีนไม่พอใจที่รัฐบาลทหารไม่สามารถจัดการปัญหาอาชญากรรมรุนแรงในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐฉานที่ทำให้ชาวจีนมากมายตกเป็นเหยื่อได้ จึงเปิดทางให้กลุ่มชาติพันธุ์ดำเนินการปราบปราม
ขณะเดียวกันก็มีสัญญาณว่า รัฐบาลทหารเมียนมาก็แสดงความไม่พอใจจีนเช่นกัน โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงจากองค์การนักชาตินิยมเมียนมา และกลุ่มพระสงฆ์ที่มีแนวคิดชาตินิยมสนับสนุนกองทัพเมียนมา ได้ไปรวมตัวกันที่สถานทูตจีนและศาลากลางในนครย่างกุ้ง เพื่อเรียกร้องว่า จีนต้องยุติการทำลายเมียนมา ด้วยการสนับสนุนและขายอาวุธให้กับพันธมิตร 3 พี่น้อง พวกเขาระบุด้วยว่า จีนเป็นต้นเหตุทำให้ทหารของรัฐบาลเมียนมาต้องเพลี่ยงพล้ำในรัฐฉานและอีกหลายพื้นที่ การประท้วงครั้งนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่า จะเกิดขึ้นไม่ได้หากรัฐบาลทหารไม่ยินยอม เพราะฉะนั้นจึงถือว่า รัฐบาลเมียนมาก็ต้องการแสดงออกต่อต้านจีนเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะต้องพึ่งพาจีนอย่างมากทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองก็ตาม .-สำนักข่าวไทย