เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า

บช.ก. 15 ต.ค. – ผบ.ตร.ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา โดยออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 72 หมาย จับกุมแล้ว 64 ราย หลบหนี 8 ราย

กลุ่มที่ 1 ผู้ร่วมขบวนการเว็บพนันออนไลน์ Crown168 จำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ


กลุ่มที่ 2 ผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้า จำนวน 20 ราย จับกุมแล้ว 14 ราย พร้อมยึดแท็บเลตเครื่องสำคัญที่ใช้ในการจัดหาบัญชีม้า, โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสมุดบัญชีบางส่วน

กลุ่มที่ 3 ผู้ร่วมขบวนการฟอกเงินธุรกิจสีเทา จำนวน 38 ราย จับกุมแล้ว 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ รวมมูลค่ากว่า 31 ล้านบาท และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ ยังได้มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคลที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวนกว่า 25 ล้านบาท


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้ดำเนินการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ Crown168 ซึ่งได้รับการประสานงานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ตรวจพบเว็บไซต์ชื่อ https://crown168.com/ ที่มีการจัดให้มีการเล่นพนันในลักษณะคาสิโนออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยผิดกฎหมาย (พนันออนไลน์) จากการจับกุมดังกล่าวสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ จากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ที่ตรวจยึดได้นั้น พบว่ามีบัญชีธนาคารนิติบุคคลหรือบริษัทรวมอยู่ด้วย

ต่อมาได้มีการนำบัญชีธนาคารที่ตรวจยึดได้มาตรวจสอบกับข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์ AOC (Anti Online Scam Operation Center) โดยพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีข้อมูลตรงกับที่มีการรับแจ้งจากศูนย์ AOC จำนวนหลายคดี เช่น หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน, หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้เสริม, หลอกให้ติดตั้งโปรมแกรมเพื่อควบคุมโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย, หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล เป็นต้น

ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อตรวจสอบที่มาของบัญชีธนาคารและซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ จนภายหลังทราบว่า บัญชีธนาคารต่างๆ ได้มาจากกลุ่มบุคคล ซึ่งมีการรวมตัวกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สั่งการผ่านทางกลุ่มไลน์เฉพาะ ที่มีสมาชิกของขบวนการภายในกลุ่มไลน์ มีการให้ค่าตอบแทนกับผู้ที่มาทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร เป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท ต่อคนต่อเดือน และเมื่อบัญชีธนาคารมีปัญหา เช่น ถูกอายัดบัญชี, ถูกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ, บัญชีที่ทางธนาคารไม่อนุญาตให้ทำธุรกรรมการเงิน บัญชีเหล่านี้จะได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนน้อยลงเรื่อยๆ จนเมื่อบัญชีธนาคารไม่สามารถใช้งานได้ หัวหน้าขบวนการจะแจ้งตามลำดับลงมาว่าให้งดจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนของบุคคลตามที่แจ้งมา และให้ดำเนินการปิดบัญชี

ส่วนสมาชิกในขบวนการจะได้ค่าตอบแทนเป็น “ค่าหัวคิว” หักจากเจ้าของบัญชีธนาคาร ซึ่งหากสมาชิกคนใดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารได้มาก ก็จะได้ค่าตอบแทนมากขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นเมื่อได้บัญชีธนาคารพร้อมใช้งานมาแล้ว ขบวนการดังกล่าวจะนำบัญชีธนาคารที่ได้มาไปใช้เป็นบัญชีที่รับเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น บัญชีรับแทง (บัญชีรับเงินจากผู้เล่นพนันทุกประเภท), บัญชีจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เล่นการพนันทุกประเภท, บัญชีที่ใช้รับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง เป็นต้น ในขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน

ผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้าได้จำนวน 14 ราย โดยยังมีอีก 6 ราย ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าและผู้ใกล้ชิดหัวหน้าขบวนการ หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดแท็บเลต, ซิมการ์ด และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสั่งการกันในขบวนการอีกจำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือพบว่ามีกลุ่มไลน์เกี่ยวกับการจัดหาบุคคลมาเปิดบัญชี, การจ่ายเงินค่าตอบแทน, แก้ไขสแกนใบหน้า จำนวน 19 กลุ่มไลน์ และยังพบข้อมูลสถานที่ส่งบัญชีม้าอีก 17 จุดทั่วประเทศ

จากการสืบสวนขยายผลบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคลหรือบริษัทที่ตรวจยึดมาได้ พบว่ามีเส้นทางการเงินต้องสงสัยเชื่อมโยงไปยังบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx จึงได้ทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าภายในระยะเวลา 1 เดือน บริษัท จี เอ็น xxx มีการรับโอนเงินจากบริษัทฯ อื่นๆ กว่า 21 บริษัท เป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบว่าบริษัทฯ จำนวน 21 บริษัท ที่โอนเงินเข้ามายัง บริษัท จี เอ็น xxx เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เปิดบริษัทฯ มาบังหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินกิจการตามจุดประสงค์ที่ขอจดทะเบียน และจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลของกรรมการบริษัทฯ แต่ละรายแล้ว พบว่าเป็นบุคคลที่มีฐานะไม่สัมพันธ์กับเงินหมุนเวียนของบริษัทที่มียอดเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท เพราะแท้จริงแล้ว บริษัทฯ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการไปขอเปิดบัญชีธนาคารกับธนาคารแล้วนำบัญชีธนาคารของนิติบุคคลหรือบริษัทนั้น มาเป็นบัญชีรับเงิน-จ่ายเงินให้กับกลุ่มเว็บพนันออนไลน์กว่า 10 เว็บไซต์ และกลุ่มเครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายอย่างอื่นอีก โดยมีการโอนเงินผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดให้เล่นการพนันต่อไปยังบัญชีธนาคารของ บริษัท จี เอ็น xxx ก่อนกรรมการ บริษัท จี เอ็น xxx (ม้า) จะลงลายมือชื่อในใบถอนเงินและเอกสารมอบอำนาจ โดยเว้นช่องชื่อผู้รับมอบอำนาจและจำนวนเงิน ทิ้งไว้ให้กับกลุ่มถอนเงิน ไปตระเวนถอนเงินผิดกฎหมายทั่วกรุงเทพ

จากการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 สามารถพิสูจน์ทราบถึงขบวนการฟอกเงินรายใหญ่ในประเทศได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะเรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม Payment ซึ่งทำหน้าที่ในการรับฟอกเงินให้กับธุรกิจสีเทาต่างๆ โดยจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊งค้ายาเสพติด และเว็บพนันออนไลน์ โดยคิดค่าตอบแทนอย่างน้อย 3% ต่อยอดเงินที่กลุ่มธุรกิจสีเทานำมาฟอก และหากกลุ่มธุรกิจสีเทาต้องการฟอกเป็นเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี กลุ่ม Payment ก็จะนำเงินสดไปทำการแลกเปลี่ยนโดยมีค่าตอบแทนเป็น % ตามจำนวนเงินที่นำมาแลกอิงตามค่าเงินเหรียญ USDT ของวันนั้นๆ

สำหรับผลการปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ.2567 นำมาสู่การสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาขบวนการจัดหาบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อฟอกเงินให้กับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทั้งบุคคลและองค์อาชญากรรมต่าง ๆ โดยในวันที่ 7-11 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ จำนวน 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐมูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx พร้อมหลักฐานอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ทำการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคล ที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนั้นยังพบว่าเป็นเงินจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเข้ามาเพื่อฟอกเงินอีกด้วย

ทั้งนี้ในทางสืบสวนพบว่ามีข้อมูลที่เชื่อว่ายังมีกลุ่มนิติบุคคลที่ทำการเปิดบริษัท โดยการจ้างบุคคลอื่นมาเป็นกรรมการ ซึ่งเมื่อทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้แล้ว จะไปยื่นขอเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำบัญชีธนาคารในรูปแบบนิติบุคคลไปใช้ประโยชน์ในลักษณะที่ทำการจับกุมมาแล้วอยู่อีกจำนวนหลายกลุ่ม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป จะทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายที่เหลือเพื่อเป็นการตัดตอน และแก้ปัญหาบัญชีธนาคารม้า ที่กำลังระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป

การเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นใช้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อตัวเจ้าของบัญชีและสังคมการกระทำดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น การฟอกเงิน การฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ หากบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับ จากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้มีผู้คนอีกจำนวนมากที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินไปอย่างประเมินค่าไม่ได้ เพียงเพราะการเปิดบัญชีธนาคาร ที่ได้ผลตอบแทนเพียงน้อยนิด ไม่ว่าจะได้รับข้อเสนอล่อใจใดๆ ก็ตาม ควรปฏิเสธอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นบุคคลที่พยายามชักชวนให้เปิดบัญชี หรือมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยทันที.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]