เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า

บช.ก. 15 ต.ค. – ผบ.ตร.ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา โดยออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 72 หมาย จับกุมแล้ว 64 ราย หลบหนี 8 ราย

กลุ่มที่ 1 ผู้ร่วมขบวนการเว็บพนันออนไลน์ Crown168 จำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ


กลุ่มที่ 2 ผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้า จำนวน 20 ราย จับกุมแล้ว 14 ราย พร้อมยึดแท็บเลตเครื่องสำคัญที่ใช้ในการจัดหาบัญชีม้า, โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสมุดบัญชีบางส่วน

กลุ่มที่ 3 ผู้ร่วมขบวนการฟอกเงินธุรกิจสีเทา จำนวน 38 ราย จับกุมแล้ว 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ รวมมูลค่ากว่า 31 ล้านบาท และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ ยังได้มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคลที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวนกว่า 25 ล้านบาท


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้ดำเนินการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ Crown168 ซึ่งได้รับการประสานงานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ตรวจพบเว็บไซต์ชื่อ https://crown168.com/ ที่มีการจัดให้มีการเล่นพนันในลักษณะคาสิโนออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยผิดกฎหมาย (พนันออนไลน์) จากการจับกุมดังกล่าวสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ จากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ที่ตรวจยึดได้นั้น พบว่ามีบัญชีธนาคารนิติบุคคลหรือบริษัทรวมอยู่ด้วย

ต่อมาได้มีการนำบัญชีธนาคารที่ตรวจยึดได้มาตรวจสอบกับข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์ AOC (Anti Online Scam Operation Center) โดยพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีข้อมูลตรงกับที่มีการรับแจ้งจากศูนย์ AOC จำนวนหลายคดี เช่น หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน, หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้เสริม, หลอกให้ติดตั้งโปรมแกรมเพื่อควบคุมโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย, หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล เป็นต้น

ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อตรวจสอบที่มาของบัญชีธนาคารและซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ จนภายหลังทราบว่า บัญชีธนาคารต่างๆ ได้มาจากกลุ่มบุคคล ซึ่งมีการรวมตัวกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สั่งการผ่านทางกลุ่มไลน์เฉพาะ ที่มีสมาชิกของขบวนการภายในกลุ่มไลน์ มีการให้ค่าตอบแทนกับผู้ที่มาทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร เป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท ต่อคนต่อเดือน และเมื่อบัญชีธนาคารมีปัญหา เช่น ถูกอายัดบัญชี, ถูกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ, บัญชีที่ทางธนาคารไม่อนุญาตให้ทำธุรกรรมการเงิน บัญชีเหล่านี้จะได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนน้อยลงเรื่อยๆ จนเมื่อบัญชีธนาคารไม่สามารถใช้งานได้ หัวหน้าขบวนการจะแจ้งตามลำดับลงมาว่าให้งดจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนของบุคคลตามที่แจ้งมา และให้ดำเนินการปิดบัญชี

ส่วนสมาชิกในขบวนการจะได้ค่าตอบแทนเป็น “ค่าหัวคิว” หักจากเจ้าของบัญชีธนาคาร ซึ่งหากสมาชิกคนใดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารได้มาก ก็จะได้ค่าตอบแทนมากขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นเมื่อได้บัญชีธนาคารพร้อมใช้งานมาแล้ว ขบวนการดังกล่าวจะนำบัญชีธนาคารที่ได้มาไปใช้เป็นบัญชีที่รับเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น บัญชีรับแทง (บัญชีรับเงินจากผู้เล่นพนันทุกประเภท), บัญชีจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เล่นการพนันทุกประเภท, บัญชีที่ใช้รับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง เป็นต้น ในขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน

ผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้าได้จำนวน 14 ราย โดยยังมีอีก 6 ราย ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าและผู้ใกล้ชิดหัวหน้าขบวนการ หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดแท็บเลต, ซิมการ์ด และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสั่งการกันในขบวนการอีกจำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือพบว่ามีกลุ่มไลน์เกี่ยวกับการจัดหาบุคคลมาเปิดบัญชี, การจ่ายเงินค่าตอบแทน, แก้ไขสแกนใบหน้า จำนวน 19 กลุ่มไลน์ และยังพบข้อมูลสถานที่ส่งบัญชีม้าอีก 17 จุดทั่วประเทศ

จากการสืบสวนขยายผลบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคลหรือบริษัทที่ตรวจยึดมาได้ พบว่ามีเส้นทางการเงินต้องสงสัยเชื่อมโยงไปยังบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx จึงได้ทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าภายในระยะเวลา 1 เดือน บริษัท จี เอ็น xxx มีการรับโอนเงินจากบริษัทฯ อื่นๆ กว่า 21 บริษัท เป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบว่าบริษัทฯ จำนวน 21 บริษัท ที่โอนเงินเข้ามายัง บริษัท จี เอ็น xxx เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เปิดบริษัทฯ มาบังหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินกิจการตามจุดประสงค์ที่ขอจดทะเบียน และจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลของกรรมการบริษัทฯ แต่ละรายแล้ว พบว่าเป็นบุคคลที่มีฐานะไม่สัมพันธ์กับเงินหมุนเวียนของบริษัทที่มียอดเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท เพราะแท้จริงแล้ว บริษัทฯ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการไปขอเปิดบัญชีธนาคารกับธนาคารแล้วนำบัญชีธนาคารของนิติบุคคลหรือบริษัทนั้น มาเป็นบัญชีรับเงิน-จ่ายเงินให้กับกลุ่มเว็บพนันออนไลน์กว่า 10 เว็บไซต์ และกลุ่มเครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายอย่างอื่นอีก โดยมีการโอนเงินผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดให้เล่นการพนันต่อไปยังบัญชีธนาคารของ บริษัท จี เอ็น xxx ก่อนกรรมการ บริษัท จี เอ็น xxx (ม้า) จะลงลายมือชื่อในใบถอนเงินและเอกสารมอบอำนาจ โดยเว้นช่องชื่อผู้รับมอบอำนาจและจำนวนเงิน ทิ้งไว้ให้กับกลุ่มถอนเงิน ไปตระเวนถอนเงินผิดกฎหมายทั่วกรุงเทพ

จากการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 สามารถพิสูจน์ทราบถึงขบวนการฟอกเงินรายใหญ่ในประเทศได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะเรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม Payment ซึ่งทำหน้าที่ในการรับฟอกเงินให้กับธุรกิจสีเทาต่างๆ โดยจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊งค้ายาเสพติด และเว็บพนันออนไลน์ โดยคิดค่าตอบแทนอย่างน้อย 3% ต่อยอดเงินที่กลุ่มธุรกิจสีเทานำมาฟอก และหากกลุ่มธุรกิจสีเทาต้องการฟอกเป็นเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี กลุ่ม Payment ก็จะนำเงินสดไปทำการแลกเปลี่ยนโดยมีค่าตอบแทนเป็น % ตามจำนวนเงินที่นำมาแลกอิงตามค่าเงินเหรียญ USDT ของวันนั้นๆ

สำหรับผลการปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ.2567 นำมาสู่การสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาขบวนการจัดหาบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อฟอกเงินให้กับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทั้งบุคคลและองค์อาชญากรรมต่าง ๆ โดยในวันที่ 7-11 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ จำนวน 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐมูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx พร้อมหลักฐานอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ทำการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคล ที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนั้นยังพบว่าเป็นเงินจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเข้ามาเพื่อฟอกเงินอีกด้วย

ทั้งนี้ในทางสืบสวนพบว่ามีข้อมูลที่เชื่อว่ายังมีกลุ่มนิติบุคคลที่ทำการเปิดบริษัท โดยการจ้างบุคคลอื่นมาเป็นกรรมการ ซึ่งเมื่อทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้แล้ว จะไปยื่นขอเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำบัญชีธนาคารในรูปแบบนิติบุคคลไปใช้ประโยชน์ในลักษณะที่ทำการจับกุมมาแล้วอยู่อีกจำนวนหลายกลุ่ม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป จะทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายที่เหลือเพื่อเป็นการตัดตอน และแก้ปัญหาบัญชีธนาคารม้า ที่กำลังระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป

การเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นใช้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อตัวเจ้าของบัญชีและสังคมการกระทำดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น การฟอกเงิน การฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ หากบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับ จากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้มีผู้คนอีกจำนวนมากที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินไปอย่างประเมินค่าไม่ได้ เพียงเพราะการเปิดบัญชีธนาคาร ที่ได้ผลตอบแทนเพียงน้อยนิด ไม่ว่าจะได้รับข้อเสนอล่อใจใดๆ ก็ตาม ควรปฏิเสธอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นบุคคลที่พยายามชักชวนให้เปิดบัญชี หรือมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยทันที.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย