กระทรวงการต่างประเทศ 10 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีย้ำให้เยาวชนพัฒนาตัวเอง ปรับตัวให้เข้าสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง วอนอย่าขัดแย้ง เชื่อทุกปัญหาแก้ได้ ขออย่าทำผิดกม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก” ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันทำงานจนเกิดวันนี้ และเพื่อรวบรวมทุกคนให้มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำเพื่อประเทศของเราในอนาคต ซึ่งวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก มีปัญหาของประเทศมากมาย ทั้งโลกอุบัติใหม่จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และ ย้ำว่าทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามาอยู่ตรงนี้และเป็นระดับผู้บริหาร รวมทั้งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ สิ่งสำคัญคือขอให้ทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลทำงานครบถ้วนในระบบการบริหาร หลายคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบบ้าง แต่ต้องทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนทุกมิติ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจสังคม คนมีรายได้มากขึ้นทุกระดับ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ โดยสิ่งที่ต้องทำคืออยู่ให้รอดปลอดภัยใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป พอเพียง พอกินพอใช้ และใช้เท่าที่จำเป็น มีภูมิคุ้มกันที่ดีมีความรู้คู่คุณธรรม จริยธรรม โดยต้องมีหิริโอตัปปะ ความละอายเกรงกลัวต่อบาป อย่าเบียดเบียนคนอื่น หรือทำอะไรที่ไม่สุจริต และยึดอริยสัจ 4
“สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมและจะประมาทอะไรไม่ได้เลย เวลามีปัญหาก็ต้องแก้ คนบอกว่าใช้แต่อำนาจ แต่จริง ๆแล้วเบื่อการใช้อำนาจ อยากได้ความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการช่วยกันทำงาน และเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ บางครั้งอาจจะมีอะไรที่ไม่ถูกใจบ้างแต่ก็ไม่ควรขัดแย้ง ลุงไม่เคยรังเกียจใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรักลุงหรือไม่รักลุง แต่อยากให้รักประเทศไทยของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหา ซึ่งในวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป มีทั้งวิกฤตและโอกาส ดังนั้นต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผู้ใหญ่ต้องเรียนรู้เด็ก เด็กต้องเรียนรู้ผู้ใหญ่ ถ้าจะทำงานแก้ไขปัญหาต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเราต้องพัฒนา ไปด้วยกัน จึงมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ถึง 20 ปี คนที่เข้ามาก็จะต้องมาสานต่อ
“อยากให้เยาวชนจำคำ 3คำนี้ไว้คือ ความฝัน ความหวัง และความคิดสร้างสรรค์ เพราะประเทศไทยอยู่ในมือของทุกคน จะต้องจับมือและทำงานยึดโยงกัน ทั้งนี้รัฐบาลทำงานเชื่อมโยงประสานทั้งภายนอกและภายใน ทั้งในระดับประเทศและอนุภูมิภาคและภูมิภาค เช่นเมื่อวานผู้นำมาเลเซียมา ก็ต้องคุยกัน พอมีชายแดนติดต่อกันในพื้นที่ภาคใต้จึงต้องทำงานประสานร่วมมือกัน เรื่องการทำเศรษฐกิจ BCG รักษาสิ่งแวดล้อม ต่อยอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาและคิดว่าวันหนึ่ง อยากจะกลับมาดู เมื่อถึงวันนั้นไม่แน่ใจอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ พร้อมผู้ติดตลกว่า ถ้าถึงวันนั้นจะกลับมาดูได้หรือไม่ หรือมาเป็นวิญญาณ ซึ่งห้องนี้มีสายมูเยอะ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เคารพกฎหมาย เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผิดเป็นผิดก็ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ขอให้ทำตัวเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน วันนี้มีงานทั้งวัน ถ้าไปเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง คงทำงานไม่ได้ อะไรไม่ดีที่ช่วยกันแก้ และก่อนจะด่าว่าใครขอให้เปิด Google ดูก่อนและอ่านดูข้อมูลที่เป็นของราชการ คือสิ่งที่เป็นหลักการมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ มีในงานที่เกี่ยวข้องในการทำงาน ซึ่งรัฐบาลเดินตามยุทธศาสตร์ชาติเพื่อนำพาประเทศสู่อนาคต ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเฉพาะในฝ่ายบริหาร ส่วน อำนาจนิติบัญญัติอยู่ที่สภา ตนก้าวล่วงไม่ได้ รวมทั้งอำนาจตุลาการด้วยสิ่งสำคัญขออย่าทำผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนเยาวชนได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และน้อมรับคำสอนในปฏิบัติพร้อมพูดเป็นภาษาอีสานว่า “พี่น้องเอ้ย ให้เฮาฮักกันเคือข้าวเหนียวนึ่งใหม่ อย่าสิเทแตกม้าง คือถึกข้าวเหนียว” ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมก็เป็นคนอีสานเหมือนกัน”.-สำนักข่าวไทย