ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง 14 ราย ปั่นหุ้น

กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น SCI GSC ASIAN FLOYD และ RP เรียกให้ชำระเงินรวม 27,398,667 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 ราย ได้แก่ (1) นายขจรเกียรติ อึ้งอร่าม (2) นางสาวพรทิพย์ เมธีเจริญวงศ์ (3) นางทัศนีย์ แย้มประดิษฐ (นางทัศนีย์) (4) นางสาวมุทิตา เอกะวิภาต (5) นางสาวขณิษากาญจน์ โชคสหพิพัฒน์ (ชื่อเดิม นางสาววริศรา ชัยเจริญปัญญา) (6) นายเมธาสิทธิ์ มั่นชาวนา (7) นางสาวเมทินี สิทธิกรเมธากุล (8) นางสาววริยา เข็มทองประดิษฐ์ (9) นายธนพล เข็มทองประดิษฐ์ (10) นางสาวอัจฉรา สุวิเดชโกศล (11) นางสาวพจนา พิเศษโภค (12) นายสิทธาปวีร์ ชวรางกูร (13) นางสาวอชิรญา เกียรติทยากร (ชื่อเดิม นางสาวกัญปอร เกียรติทยากร) และ (14) นางสาวเมวิกา ดีศรี กรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 5 บริษัท โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 27,398,667 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563 ผู้กระทำความผิด 14 รายที่มีความสัมพันธ์กันทั้งทางการเงิน และ/หรือ มีความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้


  1. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิด รวม 11 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นางสาวมุทิตา นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ นางสาวอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.32 บาท เป็น 1.71 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 12.35 ล้านหุ้น
  2. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (GSC) ในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นางสาวมุทิตา นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 0.68 บาท เป็น 0.78 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.58 ล้านหุ้น เป็น 88.23 ล้านหุ้น
  3. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ASIAN) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 4.10 บาท เป็น 4.36 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 24.70 ล้านหุ้น
  4. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) (FLOYD) ในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 8 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางสาวมุทิตา นางสาวเมทินี นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.37 บาท เป็น 1.41 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.99 ล้านหุ้น เป็น 25.85 ล้านหุ้น
  5. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) (RP) ระหว่างวันที่ 23 – 24 มกราคม 2563 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางสาวขณิษากาญจน์ นายเมธาสิทธิ์ นางสาววริยา นายธนพล นางสาวพจนา นายสิทธาปวีร์ นางสาวอชิรญา และนางสาวเมวิกา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.41 บาท เป็น 1.48 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.13 ล้านหุ้น เป็น 4.43 ล้านหุ้น

การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น SCI GSC ASIAN FLOYD และ RP ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5(2)(3)(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ก. ให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด ดังนี้ นายขจรเกียรติ จำนวน 3,429,167 บาท นางสาวพรทิพย์ จำนวน 2,739,565 บาท นางทัศนีย์ จำนวน 1,700,080 บาท นางสาวมุทิตา จำนวน 1,778,755 บาท นางสาวขณิษากาญจน์ จำนวน 580,072 บาท นายเมธาสิทธิ์ จำนวน 2,066,636 บาท นางสาวเมทินี จำนวน 2,163,004 บาท นางสาววริยา จำนวน 2,215,734 บาท นายธนพล จำนวน 2,785,950 บาท นางสาวอัจฉรา จำนวน 1,551,370 บาท นางสาวพจนา จำนวน 563,597 บาท นายสิทธาปวีร์ จำนวน 2,633,573 บาท นางสาวอชิรญา จำนวน 2,683,524 บาท และนางสาวเมวิกา จำนวน 507,640 บาท

ข. ห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 11 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นางสาวมุทิตา นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 30 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 60 เดือน และห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวขณิษากาญจน์ นางสาวพจนา และนางสาวเมวิกา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 28 เดือน


การกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลักทรัพย์ และระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย