สหรัฐ 17 พ.ค.-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงมากขึ้น หลังมีการแฉหลักฐานว่าเขาเคยขอร้องให้นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ที่เขาสั่งปลดออกจากตำแหน่งยุติการสอบสวน ข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียอาจแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ส่งผลให้เขาชนะเลือกตั้งอย่างเหนือความคาดหมาย
เรื่องฉาวโฉ่นี้แดงขึ้นมาหลังหนังสือพิมพ์ NY Times ตีพิมพ์บันทึก ที่นายโคมีย์เขียนขึ้นหลังเข้าพบหารือนายทรัมป์ที่ทำเนียบขาว ระบุว่า ทรัมป์ขอร้องให้เขา ยุติการสอบสวนพลโทไมเคิล ฟลินท์ อดีตที่ปรึกษา ด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวที่ถูกทรัมป์สั่งปลดฟ้าผ่าเหมือนกัน หลังพลโทฟลินท์ ให้ข้อมูลไม่กระจ่างว่าแอบไปคุยเรื่องการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย กับนายเซอร์เก คิสลาค ทูตรัสเซียประจำสหรัฐ
ก่อนทรัมป์ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจริงหรือไม่ ขณะที่ทำเนียบขาวปฏิเสธทันทีว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เคยกดดันนายโคมีย์ ตามที่มีการกล่าวหา พร้อมเรียกร้องให้ FBI แฉหลักฐานเพิ่มภายใน 1 สัปดาห์ และยังขอให้นักข่าวผู้อยู่ในเหตุการณ์การพบกันระหว่างทรัมป์ กับโคมีย์ ที่ทำเนียบขาวในวันนั้นร่วมกันเป็นพยานพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้
ข่าวฉาวของทรัมป์ตั้งแต่สั่งปลดฟ้าผ่าผู้อำนวยการ FBI รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลลับด้านความมั่นคง เรื่องที่ข่าวกรองอิสราเอลแจ้งสหรัฐว่า กลุ่มก่อการร้ายไอเอส เตรียมใช้แล็บท็อปวางระเบิดบนเครื่องบินโดยสารให้นายเซอร์เก ลาฟรอพ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียฟัง ส่งผลให้เรตติ้ง หรือคะแนนนิยมของทรัมป์ ยิ่งร่วงลงพร้อมๆกับเสียงเรียกร้องให้มีการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย