สภาล่มซ้ำซาก!

รัฐสภา 25 ม.ค.- ล่มซ้ำซาก ก่อนเริ่มพิจารณาร่าง รธน.ปิดสวิตซ์ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ด้าน ฝ่ายค้าน ยันไม่ร่วมสร้างบรรทัดฐานใหม่หลังประธานฯ ให้ลงมติเลื่อนวาระตาม ส.ว. ขณะ ส.ว.ถามกลับเร่งพิจารณา รธน.หวังผลการเมืองหรือไม่


การประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้(25ม.ค.) เป็นการประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ พ.ศ. …. โดยก่อนเริ่มพิจารณา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หารือต่อที่ประชุม ว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สามารถทำได้หรือไม่ เพราะตามระเบียบวาระ คือ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้น จึงเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมสื่อมวลชน และ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ตามลำดับ ดังนั้น หากจะเลื่อนการพิจารณาต้องถามมติจากที่ประชุมก่อน อีกทั้งการเปลี่ยนระเบียบวาระในการประชุมร่วมกันของวิปฝ่ายต่ายๆ ไม่มี ส.ว.ร่วมประชุมอยู่ด้วย ทำให้ ส.ว.รู้สึกไม่สบายใจ

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยืนยันว่า การเปลี่ยนระเบียบวาระประชุมเป็นอำนาจของประธาน ซึ่งได้ผ่านการหารือมาแล้ว แม้ว่าจะไม่มีตัวแทนจากวุฒิสภาเข้าร่วมก็ได้แจ้งไปยังประธานวุฒิสภาให้ทราบแล้ว


แต่นายสมชาย ยังยืนยันว่า จะต้องถามมติที่ประชุมก่อนว่า จะเห็นด้วยให้เลื่อนการพิจารณาหรือไม่ ตามข้อบังคับการประชุม หากรัฐสภาเห็นด้วย ที่ประชุมจะได้เดินหน้าตามมติ ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่า วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เคยถูกเสนอในที่ประชุมรัฐสภาและตกไปแล้ว แต่ถูกเสนอกลับมาพิจารณาใหม่ในช่วงเลือกตั้ง จะเป็นการหวังผลทางการเมืองหรือไม่

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ย้ำว่า วันนี้เป็นการประชุมวาระพิเศษ ซึ่งผ่านการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระมาแล้ว หากให้ลงมติตามญัตติของนายสมชาย จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในรัฐสภาไทย อย่างไรก็ตาม หากวุฒิสภา ไม่ต้องการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ให้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาไม่ขอพิจารณาระเบียบวาระนี้ ซึ่งจะทำให้องค์ประชุมอยู่ครบ และการประชุมเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมมองว่า เหตุที่ ส.ว.พยายามขัดขวางไม่พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เพราะมีสาระสำคัญเรื่องการตัดอำนาจ ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.

จากนั้น นายชวน เดินหน้าตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อลงมติตามญัตติที่ นายสมชาย เสนอและในระหว่างที่รอองค์ประชุม นายชวน ได้กำชับไปถึงสมาชิกทุกคนว่า


“รัฐสภาแห่งนี้ขับเคลื่อนด้วยคนส่วนใหญ่ หากคนส่วนใหญ่เกเรไม่รับผิดชอบ ก็อยู่มาไม่ได้ถึง 4 ปี ดังนั้นต้องให้เกียรติสมาชิกด้วย ตนเองย้ำมาตลอดว่า รัฐสภาอยู่ได้ เพราะความร่วมมือจากทุกฝ่าย และเข้าใจดีว่า กว่าจะมาเป็นผู้แทนได้มันยาก ไม่มีใครลอยมาได้ อีกทั้งต้องต่อสู้มาด้วยความยุติธรรม ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ไม่โกงเลือกตั้ง ดังนั้นขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงสั้นๆ ก่อนจะถึงวันที่ 23 มีนาคม สมาชิกต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เวลาอาจจะน้อยแต่มีค่ามาก ขอให้สมาชิกร่วมทำงานด้วยความรับผิดชอบ”นายชวน ระบุ

จากนั้น นายชวน รายงานตัวเลขสมาชิกที่แสดงตน จำนวน 245 คน ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่ต้องมีจำนวน 337 คน จึงสั่งปิดการประชุมในเวลา 13.35 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย