นนทบุรี 23 ม.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์เตรียมนำทัพเยือนบรัสเซลล์ ตั้งแต่ 25-26 ม.ค.นี้ พร้อมตั้งเป้าเดินหน้าทำ FTA ไทย-อียู ย้ำถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย โดยอียูเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 5 รองจากอาเซียน จีนสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 41,038.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทอยู่ที่ 1.46 ล้านล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าในระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ ตนจะนำทัพเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อเร่งการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป(อียู) โดยFTA ไทยกับสหภาพยุโรปเป็นเรื่องคาดหวังกันมายาวนานแต่ยังไม่บรรลุผล แต่ติดขัดเรื่องการเจรจาช่วงตั้งแต่ปี2557 ดังนั้น ขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเริ่มต้นการเจรจาอย่างเป็นทางการ ซึ่ง FTA ไทย-อียู อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ ยังจะมีการหารือกับนายวัลดิส ดอมโบรฟสกิส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการค้าของรัฐบาลสหภาพยุโรปด้วย
ทั้งนี้ FTA ไทย-อียู เป็น FTA ที่ภาคเอกชนมีความประสงค์และต้องการมานานแต่ยังไม่บรรลุผล ถ้าประสบความสำเร็จจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปได้มากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสทางการค้าจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะมีตัวเลขที่ดีขึ้น เป้าหมายภาษีระหว่างกันเป็นศูนย์ ทำให้ได้แต้มต่อประเทศคู่แข่งที่ไม่มีFTA กับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นการสร้างอนาคตให้กับประเทศด้วยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในปี 2565 อียูเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 5 รองจากอาเซียน จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 41,038.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.46 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.95 ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปอียู 22,794.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.10 แสนล้านบาท) สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และแผงวงจรไฟฟ้า และนำเข้าจากอียู มูลค่า 18,243.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.48 แสนล้านบาท) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์.-สำนักข่าวไทย