กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยาระบุ มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน อ่อนกำลังลง ส่งผลให้มีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับลมตะวันออกหอบความชื้นเข้ามา ทำให้บริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑลมีฝนตกเล็กน้อย
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-16 ม.ค. มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุม มีกำลังอ่อน ทำให้มีหมอกในตอนเช้า นอกจากนี้อิทธิพลของลมตะวันออกที่พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ทำให้มีฝนเล็กน้อย บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล
สำหรับอุณหภูมิในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีคลื่นกระแสลมตะวันตก เคลื่อนเข้าปกคลุม ส่งผลให้อากาศที่อุ่นขึ้นก่อนหน้านี้ กลับเย็นลงเล็กน้อย ส่วนภาคใต้จะยังมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ส่วนกรุงเทพมหานครได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดียวกัน โดยมีความเร็วลมประมาณ 10-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเป็นลมที่พัดจากทะเลนำความชื้นเข้าปกคลุมก่อให้เกิดหมอกเหนือพื้นดินได้ในเวลากลางคืนและจางหายไปในเวลาเข้าภายหลังดวงอาทิตย์ขึ้น เกิดจากในตอนกลางคืนพื้นดินจะคายความร้อนหรือแผ่รังสีออกได้มากเป็นเหตุให้พื้นดินเย็นลง อากาศในชั้นล่างที่อยู่ใกล้พื้นดินจะเย็นลงด้วย จนมีอุณหภูมิเท่ากับจุดน้ำค้างทำให้ไอน้ำในอากาศที่อยู่ใกล้พื้นดินกลั่นตัวเกิดเป็นหมอก โดยลักษณะอากาศที่นิ่งและลมอ่อน ประกอบกับในช่วงเช้ากิจกรรมของคนในเขตเมืองเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดฝุ่นละอองมากขึ้นในตอนเช้าเช่นเดียวกัน จึงเกิดการคลุกเคล้าของหมอกและฝุ่นรวมกันได้ ส่งผลให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง
จากนั้นช่วง 17-22 ม.ค. คาดว่า จะมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะภาคตอนล่าง มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยและอันดามัน มีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือ ชาวประมงต้องเดินเรือด้วยความระวัง
หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพยารณ์อากาศและประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 (ตลอด 22 ชั่วโมง) โทร. 02-3994012-3 Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thaiweather และเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th.-สำนักข่าวไทย