กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – กทม.วอนคนใจบุญแจกอาหารคนไร้บ้านในจุดบริการที่กำหนด ร่วมสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณถนนราชดำเนินกลาง
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อติดตามการดำเนินการจัดระเบียบการแจกอาหารบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ในที่ประชุม สำนักงานเขตพระนครได้รายงานการดำเนินการจัดระเบียบการแจกอาหารบริเวณถนนราชดำเนินกลาง โดยจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับผู้ใจบุญที่นำอาหารมาแจกให้แก่คนไร้บ้านบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม สำนักพัฒนาสังคม กทม. และองค์กรภาคีเครือข่าย พร้อมให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกผู้ใจบุญให้ไปแจกอาหารบริเวณจุดบริการที่กำหนดไว้ เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้งนี้ สำนักงานเขตพระนครได้กำหนดจุดแจกอาหารไว้ 2 จุด คือ จุดที่ 1 บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ถนนราชินี ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ต.ค.65 มีผู้ใจบุญนำอาหารมาแจกเฉลี่ยวันละ 4-5 ราย เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย 5 นาย ผู้ไร้บ้านประมาณวันละ 200 ราย จุดที่ 2 บริเวณซอยสาเก ถนนอัษฎางค์ ระหว่างเวลา 17.00-22.00 น. เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 มีผู้ใจบุญนำอาหารมาแจกเฉลี่ยวันละ 3-5 ราย เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย 4 นาย ผู้ไร้บ้านประมาณวันละ 150 ราย นอกจากนี้ สำนักงานเขตพระนครได้จัดทำแบบแสดงความประสงค์บริจาคอาหารเพื่อคนไร้บ้าน สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/2hZzssfChcJtrALK9 หรือ QR CODE ที่กำหนด นอกจากนี้ สำนักพัฒนาสังคม ได้ประสานกรมทางหลวงชนบท ในการขอใช้พื้นที่บริเวณโดยรอบห้องสุขา รวมถึงปรับปรุงห้องน้ำ ห้องสุขาใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร เพื่อดำเนินการจุดบริการสวัสดิการสังคม (Drop in) รองรับคนไร้บ้าน ตลอดจนการส่งเสริมการมีงานทำของกลุ่มคนไร้บ้าน
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้หารือถึงการดำเนินการจัดระเบียบการแจกอาหารบริเวณถนนราชดำเนินกลาง โดยเน้นย้ำการจัดระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งการแจกจ่ายอาหาร การพักอาศัยหลับนอน ปัญหาด้านจราจร การจอดรถในที่ห้ามจอด รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใจบุญที่นำอาหารมาแจก โดยกำหนดจุดบริการไว้สำหรับแจกอาหาร อีกทั้งรองรับความต้องการจากคนไร้บ้าน เช่น การสงเคราะห์ด้านที่อยู่อาศัย การดูแลรักษาสุขภาพ การจัดหางานสร้างอาชีพ และด้านอื่นๆ โดยความช่วยเหลือจากกรุงเทพมหานคร กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิและองค์กรภาคีเครือข่ายต่างๆ ตลอดจนดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย