กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – ผู้บริหารระดมลงพื้นที่โรงเรียนกิ่งเพชร กรุงเทพฯ ตรวจความเรียบร้อยโรงเรียน ชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งทำให้โรงเรียน กทม.ดีขึ้น
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนกิ่งเพชร เขตราชเทวี
“ที่ลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อให้กำลังใจทุกคน มีคำหนึ่งที่บอกว่าถ้าดอกไม้ไม่บาน ไม่ใช่ไปดูที่ต้นไม้หรือดอกไม้ แต่ต้องไปดูที่สิ่งแวดล้อม ไปแก้ที่ดิน ที่การรดน้ำ เราจะร่วมกันเดินหน้าเพื่อเป็นส่วนหนึ่งทำให้โรงเรียน กทม.ดีขึ้น และต่อสู้ไปด้วยกัน“ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ปลัด กทม. กล่าวว่า มีประเด็นความปลอดภัยที่อยากฝากถึงนักเรียนทุกคน 2 เรื่อง คือ เรื่องการสวมใส่หมวกกันน็อก เพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ ไม่ให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน โดยได้สั่งการให้โรงเรียนจัดหาให้นักเรียนครบตามความต้องการโดยเร่งด่วน อีกเรื่องความปลอดภัยที่ได้ฝากนักเรียนไว้คือ หากพบสิ่งที่ต้องสงสัย การพกพายาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า การพกพาอาวุธมาโรงเรียน หรือไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ขอให้ทุกคนรีบไปแจ้งที่คุณครูโดยทันที
นอกจากนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้สำนักการศึกษาลงพื้นที่เพื่อดูแลจิตใจเด็กนักเรียนและครูในโรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยแบ่งกลุ่มตามอาการเพื่อดูแลให้เหมาะสม เนื่องจากจะมีทั้งผู้ที่เห็นเหตุการณ์แล้วปรับตัวได้และปรับตัวไม่ได้ โดยร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตเพื่อประเมินสุขภาพจิตของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนที่เกิดเหตุทั้งหมด
ทั้งนี้ โรงเรียนกิ่งเพชร จัดการศึกษาระดับอนุบาล – มัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนได้ออกประกาศมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุข เพื่อให้การดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขภายในโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ประกอบด้วย
1. สถานศึกษาสร้างการรับรู้ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ ในการป้องกันและเฝ้าระวังการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขผ่านช่องทางต่าง ๆ
2. สถานศึกษาขอความร่วมมือกับเครือข่ายนักเรียน เครือข่ายคณะครู เครือข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายชุมชน สำนักงานเขตราชเทวี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา
3. ไม่อนุญาตให้นำหรือพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขทุกประเภทเข้ามาในสถานศึกษา
4. จัดให้มีการสุ่มตรวจอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขก่อนเข้าโรงเรียน
5. หากตรวจพบการพกพาอาวุธ สิ่งเสพติด และอบายมุขภายในสถานศึกษา ให้ประสานงานกับผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไข
6. ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในสถานศึกษา
7. จัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อให้คำปรึกษาและแนะแนวให้กับนักเรียน. -417-สำนักข่าวไทย