กทม.เตรียมจัด “Bangkok Pride Festival 2024” ฉลองสมรสเท่าเทียม

กรุงเทพฯ 29 ก.พ.-นฤมิตไพรด์ X กรุงเทพมหานคร เตรียมจัด “Bangkok Pride Festival 2024” ฉลองสมรสเท่าเทียม เตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพจัด Bangkok WorldPride 2030


นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมแถลงข่าว “Bangkok Pride 2024 celebration of Love” ณ บริเวณห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bacc) เขตปทุมวัน

รองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะตัวแทนของพันธมิตรเมือง กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร สนับสนุนงาน Bangkok Pride Festival เป็นปีที่ 3 แล้ว ขอชื่นชมภาคีเครือข่ายผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีความเข้มแข็งที่สุดอีกหนึ่งภาคีและมีข้อเสนอต่อทางภาครัฐที่ชัดเจน สิ่งใดที่ กทม. ดำเนินการได้จะทำทันที เช่น การสมรสเท่าเทียม ซึ่งวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา กทม.เปิดให้แจ้งจดทะเบียนสมรสได้เลยทั้ง 50 เขต จำนวน 165 คู่ หาก ครม.อนุมัติกฎหมาย 165 คู่นี้จะจดทะเบียนสมรสได้ทันที


นอกจากนี้ กทม.ยังเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการจัดงานบางกอกไพรด์ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะกิจกรรมเดินขบวนที่จะมีการเพิ่มความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกที่หลากหลายสำหรับ เด็ก ผู้พิการ ผู้สูงวัย Pet friendly การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์กับ LGBT+ ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจบงานไพรด์แล้วตลอดทั้งปีกรุงเทพมหานครก็มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าร่วมเป็นเครือข่ายกับ Rainbow Cities Network เครือข่ายเมืองระดับโลกที่จะรับรองเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเมืองและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงภารกิจใหญ่ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน WorldPride 2030 ซึ่งต้องมีการพัฒนาคุณสมบัติของเมืองและความเข้มแข็งของชุมชนเพศหลากหลายไปพร้อมกัน เป็นภารกิจที่ท้าทายและต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย กรุงเทพมหานครก็พร้อมที่จะเดินทางกับบางกอกไพรด์และชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศไปจนกว่าจะถึงปี 2030 ด้วยความหวังว่าจะสามารถจัดงาน WorldPride โดยใช้ชื่อ Bangkok WorldPride 2030

นโยบายของกรุงเทพมหานคร มุ่งเป้าบริหารจัดการกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ส่งเสริมให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ทุกคนต้องการความสุข ต้องการความเท่าเทียม ต้องการสิทธิในด้านต่างๆ ซึ่งหากกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านความเห็นชอบ ทาง กทม. ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม เพื่อคนทุกกลุ่มจะได้อยู่ในสังคมเดียวกันอย่างสมดุล นั่นเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน งาน Bangkok Pride Festival 2024 ถือเป็นงานระดับประเทศที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้หมุนเวียน โดยกทม.ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนและคอยอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ

Bangkok Pride Festival 2024 ไม่เพียงแค่เป็นการปรากฏการณ์การรวมตัวของชุมชน LGBTQIAN+ แต่ยังเป็นการพื้นที่สำคัญในการยืนยันสิทธิความเท่าเทียมทางเพศของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เฉลิมฉลองความหลากหลายของความรักและความเป็นมนุษย์ นฤมิตไพรด์ยังเปิดพื้นที่ให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ และช่วยกันสร้างโลกที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน โดยมีการเปิดรับสมัครขบวนทั้งในงานและออนไลน์ผ่าน www.bangkokpride.org


ทั้งนี้ นฤมิตไพรด์ จับมือกรุงเทพมหานคร พร้อมพันธมิตรภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ร่วม เนรมิตถนนพระราม 1 เป็นถนนสีรุ้งแห่งความเท่าเทียม จัดงาน “Bangkok Pride Festival 2024” ภายใต้แนวคิด Celebration of Love เคานต์ดาวน์นับถอยหลังสู่การใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมก่อนสิ้นปี 2567 นี้ โดยภาพธงสีรุ้งที่ยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานครในปีนี้ จะเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศจากทุกภาคส่วน และเป็นคำเชิญที่ส่งตรงไปยัง LGBTQIAN+ จากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนประเทศไทยในฐานะหมุดหมายของ “ชาวสีรุ้ง” พร้อมตั้งเป้าความสำเร็จในปีนี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้เยาวชน LGBTQIAN+ ตัวแทนประเทศไทย ไปนำเสนอความพร้อมและคุณสมบัติในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok WorldPride ปี 2030 สำเร็จ

วาดดาว – อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง นฤมิตไพรด์ กล่าวว่า เจตนารมณ์ของการจัดงาน “บางกอก ไพรด์ เฟสติวัล 2024” (Bangkok Pride Festival 2024) ยังคงเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง ความหลากหลาย ความรักที่ไม่มีข้อจำกัด การรวมไว้ซึ่งความเท่าเทียมสำหรับชุมชน LGBTQIAN+ ในประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับในสังคม โดยปีนี้รูปแบบของการจัดงานจะถูกถ่ายทอดเรื่องราวภายใต้แนวคิด Celebration of Love : นับถอยหลังพร้อมกันเพื่อสมรสเท่าเทียม ให้ออกเป็นกฎหมาย มีผลบังคับใช้ก่อนสิ้นปี 2567 นี้

“การจัดงาน Bangkok Pride Festival 2024 มีแกนหลัก คือ การสนับสนุนและผลักดันให้มีการยอมรับสมรสเท่าเทียมในสังคมไทย หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ก่อนสิ้นปี 2567 นี้ ไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อนุญาตให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย เสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศและสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน ปีนี้จึงจัด Celebration of Love : นับถอยหลังพร้อมกันเพื่อสมรสเท่าเทียมด้วย อยากให้เคานต์ดาวน์ไปพร้อมๆ กัน ด้วยการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อความหมาย ความหวัง ความพยายาม สนับสนุนและผลักดันให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมกลายเป็นความจริง และเกิดการยอมรับในสังคมไทย พร้อมตั้งเป้าเข้าร่วมเป็นเครือข่าย Rainbow Cities Network พัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกเพศ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok WorldPride ในปี 2030” ประธานและผู้ก่อตั้ง นฤมิตไพรด์ กล่าวทิ้งท้าย

เมื่อพูดถึงกลิ่นอายของ “Bangkok Pride Festival 2024” โมเมนต์ที่ทุกคนต่างรอคอยคือ “ขบวนพาเหรด” เสน่ห์และอัตลักษณ์เสมือนการเปิดม่าน โลกที่เท่าเทียม และฉลองความหลากหลายของชุมชน LGBTQIAN+ ในปีนี้เส้นทางขบวนพาเหรดจะอยู่บนถนนพระราม 1 เริ่มตั้งแต่บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย ผ่านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน วัดปทุมวนาราม ยาวมาจนถึงสี่แยกราชประสงค์ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะจัดในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. เตรียมตัวเซอร์ไพรส์กับ 6 ทูตนฤมิต (Naruemit Ambassadors), ขบวนพาเหรดในประเด็นสิทธิความหลากหลายทางเพศ, การแสดง Drag Show และการแสดงอื่น ๆ อีกจำนวนมาก บนถนนแห่งความเท่าเทียม. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย