ทำเนียบ 4 ม.ค. – โฆษกรัฐบาล ชี้แจง นายกฯ มีคำสั่งให้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ช่วยราชการทำเนียบฯ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 ระบุ ให้ฝ่ายการสืบสวนหาข้อเท็จจริงได้อย่างเต็มที่ ยืนยัน ไม่ปกป้องใคร
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า เป็นประเด็นที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนทำงานได้อย่างสะดวกไร้ข้อครหา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งให้นำตัวเข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้อำนาจ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 มาตรา 11 ข้อ (4) นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจ (4) สั่งให้ข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่ให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม ให้ได้รับ เงินเดือนในสำนักนายกรัฐมนตรีในระดับ และขั้นที่ไม่สูงกว่าเดิม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้เกิดความโปร่งใสที่สุดในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งการลงนามในคำสั่งดังกล่าวนั้น เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการแทรกแซง และให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสอบสวนได้อย่างเต็มที่
“นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ต้องการปกป้องความผิดของผู้ใด และต้องการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน หาข้อเท็จจริง สอบสวนด้วยความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซง เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสังคม ซึ่งหนึ่งในข้อปฏิบัติในการทำงานที่นายกรัฐมนตรียึดถือมาตลอดคือ ตั้งใจจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในทุกแวดวง ต้องโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย.