กรุงเทพฯ 29 ธ.ค. – รมว.วราวุธ เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวง ทส. อธิบดี-รองอธิบดีทุกกรม ย้ำนโยบายสุจริต-โปร่งใส ต้องไม่ซื้อขายตำแหน่ง เผยคณะกรรมการจ่อเรียกผู้อำนวยการทุกสำนักของกรมอุทยานฯ สอบ ปลัด ทส. ระบุหากอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินจริง โทษสูงสุดคือให้ออกจากราชการ อีกทั้งจะทบทวนความเหมาะสมของแต่ละตำแหน่งที่แต่งตั้งไว้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้เชิญผู้บริหารกระทรวง อธิบดีและรองอธิบดีทุกกรม มากำชับนโยบายการปฏิบัติงานที่ต้องเป็นไปด้วยความสุจริตและโปร่งใส พร้อมย้ำว่า ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างเด็ดขาด ในเทศกาลต่างๆ อย่างปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงต้องไม่รับของขวัญ-ของกำนัล ดังเช่นวันนี้ผู้บริหารได้ลงชื่อในบัตรอวยพรให้
สำหรับกรณีที่ ป.ป.ช. และตำรวจ บก.ปปป. เข้าจับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น กระทรวง ทส. จะดำเนินการทางวินัยควบคู่กันไป ล่าสุดคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปลัด ทส. แต่งตั้งได้รายงานผลเบื้องต้นว่าจะเรียกผู้อำนวยการสำนักทุกสำนักของกรมอุทยานฯ มาสอบตามที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ซึ่งเป็นผู้ร้องต่อ ป.ป.ช. ระบุว่ามีการส่งมอบเงินผ่านผู้อำนวยการสำนัก
นายวราวุธ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่ได้พูดคุยกับนายรัชฎาอีก เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่าฝ่ายการเมืองแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยปลัดกระทรวงจะกำกับดูแลให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกมิติ เชื่อว่าคณะกรรมการจะนำข้อมูลของ ป.ป.ช. และตำรวจมาพิจารณาด้วย
ขณะนี้นายรัชฎาได้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมอุทยานฯ แล้ว ตั้งแต่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยปลัดกระทรวงฯ จะพิจารณาแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนซึ่งตามระเบียบจะพิจารณาจากรองปลัดกระทรวงหรือรองอธิบดี
นายวราวุธ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจข้าราชการสังกัดกระทรวง ทส.ทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป พร้อมขอให้สังคมอย่าเหมารวมว่าข้าราชการทั้งกระทรวงเป็นเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนขอให้มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบและกระบวนการยุติธรรม
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะตรวจสอบทุกมิติว่าใครมีเกี่ยวข้องอย่างไร ตามที่ ป.ป.ช. และตำรวจระบุว่าพบพฤติกรรมเรียกรับเงินทั้งค่าตำแหน่ง ค่าเลื่อนระดับ และเปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายรายเดือนจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกรมทั่วประเทศ
หากผลสอบปรากฏว่า นายรัชฎาผิดจริง โทษสูงสุดคือให้ออกจากราชการ ส่วนหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่นายรัชฎาแต่งตั้ง จะทบทวนเป็นรายตำแหน่งว่าเป็นไปตามหลักการแต่งตั้งหรือไม่ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมีความเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ยังระบุว่า ได้พูดคุยกับนายชัยวัฒน์ซึ่งเป็นผู้ร้องแล้ว โดยได้ให้กำลังใจด้วย.-สำนักข่าวไทย