กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.- “พล.อ.อนันตพร” เตือนข้าราชการเร่งปรับตัว อีก 2 เดือน กฎหมายปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์มีผลบังคับใช้ เตรียมอบรมและทำความเข้าใจประชาชน ส่งเอกสารราชการผ่านอิเล็กทรอนิกส์ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการคมนาคม วุฒิสภา เปิดเผยว่าขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูปได้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือน ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ภาคราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับตัว ขณะเดียวกันจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่ากฎหมายนี้ช่วยอำนวยความสะดวกทำให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาติดต่อราชการด้วยตัวเองอีกต่อไป โดยสามารถส่งเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบออนไลน์ได้ ยื่นเรื่องขออนุญาต ขอรับสวัสดิการต่างๆ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศช่องทางการส่งเอกสารของหน่วยงานภาครัฐ หรือหากไม่ทราบก็สามารถเปิดไปที่ช่องทางสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สพธอ. จะมีทางลัดแนะนำได้ อย่างไรก็ตาม แม้ตามกฎหมายนี้จะเปิดให้สามารถสแกนเอกสารส่งได้ แต่ประชาชนก็ยังสามารถใช้ช่องทางเดิม คือ ส่งเอกสารตามปกติได้เช่นเดียวกัน
“สามารถใช้วิธีการสแกนส่งได้ ส่งทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องถ่ายสำเนามา ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกเพราะไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง และไม่ต้องเอาสำเนามาให้ ใช้ภาพถ่ายทางอิเล็กทรอนิกส์หมดเลย ส่วนราชการเองก็ต้องมีระบบหลังบ้าน คือต้องมี Data เก็บข้อมูลประมวลผล ไม่ใช่พอเขาส่งมาทางอิเล็กทรอนิกส์แล้วไปไม่ถูก ต้องไปปริ้นเป็นกระดาษอีกก็ไม่มีประโยชน์อะไร คือส่งมาแล้วต้องเข้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อไปเลย ภาครัฐจึงต้องปรับตัวอย่างมากเพราะเป็นผู้ให้บริการ แต่ภาคประชาชนยังเลือกได้จะส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ส่งเป็นกระดาษก็ได้ทั้ง 2 อย่าง อยู่ที่ประชาชนจะเลือก” พล.อ.อนันตพร กล่าว
พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่าในส่วนของข้าราชการของรัฐ จะต้องปรับตัวเช่นกันเมื่อกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ จะใช้ระบบเดิมส่งเอกสารอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะกฎหมายฉบับนี้ระบุว่ารัฐจะต้องบริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย จึงปฏิเสธไม่ได้หากปฏิเสธอาจจะถูกฟ้องร้องจากประชาชนได้เพราะถือว่าไม่ทำตามกฎหมายที่กำหนด และที่สำคัญคือสำนักงานพัฒนาระบบราชการ จะต้องจัดอบรม ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม เพิ่มเติมให้เข้าใจว่าจะต้องทำงานอย่างไร ขณะเดียวกันต้องอบรมข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งดูแลพี่น้องประชาชนทั้งจังหวัดอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ได้รับทราบถึงขั้นตอนและวิธีการ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสนได้ เนื่องจากประชาชนก็ไม่เคยยื่นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้าราชการก็ไม่เคยปฏิบัติ จึงอยากเร่งรัดให้อบรมทั้งสองฝ่ายให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดข้องและมีการฟ้องร้องตามมา
ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องของการโจรกรรมข้อมูลหากส่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น พลเอกอนันตพรกล่าวว่าปัจจุบัน มีพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และพระราชบัญญัติความปลอดภัยไซเบอร์ แต่จะต้องมีกฎหมายประกอบออกมาเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน โดยขณะนี้ก็ยังติดตามเรื่องของปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกรณีที่ทำให้เกิดการเสียทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งความจริงกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ป้องกันได้ แต่การนำไปสู่การปฏิบัติยังต้องปรับตัว ซึ่งข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย