ญาติเศร้ารับศพหนุ่มถูกยิงดับคาโรงพัก เผยทำเกินกว่าเหตุ

กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – ครอบครัวหนุ่มถูกยิงดับกลางโรงพัก รับศพบำเพ็ญกุศล ญาติเผยทำเกินกว่าเหตุ เตรียมแจ้งความเอาผิดตำรวจ สน.หลักสอง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่


วันที่ 17 ธ.ค.65 เวลา 11.00 น. นางนุชนารถ อายุ 58 ปี แม่ผู้เสียชีวิต และ น.ส.ปภาดา อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อรับร่างของนายคมสัน หรือ ม่อน ไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา

น.ส.ปภาดา เปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เกิดจากเพียงแค่การทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนน แต่กลับกลายมาเป็นความสูญเสียถึงชีวิต จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากในวันเกิดเหตุแรก วันที่ 27 ก.ย.65 คู่กรณีต้องการจะยูเทิร์น แต่คู่กรณีไม่ได้ต่อแถวเข้าคิวเพื่อยูเทิร์น ตามที่รถคันอื่นทำ สามีตนซึ่งตอนนั้นขับรถมาในทางตรง จึงไม่ให้ทาง สร้างความไม่พอใจให้กับคู่กรณี เมื่อคู่กรณียูเทิร์นกลับมาได้ ก็ขับรถตามรถตนมา พร้อมกับเปิดไฟสูง จากนั้นคู่กรณีขับรถออกเลนซ้าย เพื่อแซงขึ้นข้างหน้า ยอมรับว่า ตอนนั้นสามีตนก็โมโห จึงมีการขับรถปาดกันไปกันมา สามีตนจึงหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่ดื่มแล้ว ซึ่งอยู่ในรถ ขว้างออกไปที่รถของคู่กรณี เพื่อจะให้คู่กรณีหยุดรถ จะได้พูดคุยเจรจากัน ซึ่งคู่กรณีก็หยุดรถ และสามีตนก็ไปจอดขนาบข้าง คู่กรณีลดกระจกลงมา พร้อมกับถ่ายคลิป ซึ่งจังหวะนั้นก็มีการตอบโต้เถียงด้วยถ้อยคำ เขวี้ยงข้าวของไปมาจนโดนหน้าสามีตน ทำให้สามีตนโมโห จึงเข้าไปต่อยคู่กรณี 1-2 ครั้งเท่านั้น ส่วนคู่กรณีก็ต่อยสวนคืนมา ไม่คิดว่าจะเป็นคดี เพราะคิดว่าเป็นการทะเลาะกันระหว่างลูกผู้ชาย จากนั้นหลานชายของตนได้ลงไปห้าม ไม่ได้ลงไปรุมทำร้ายตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป ซึ่งในระหว่างนั้นมีพยานน้องที่เป็นไรเดอร์เห็นว่าคู่กรณีมีปืน ส่วนเรื่องการใช้สนับมือนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี ถ้ามีจริง แผลที่ใบหน้าของคู่กรณีคงไม่ใช่แค่รอยฟกช้ำ


ส่วนเรื่องที่มีการเจรจาบน สน.หลักสอง ต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้ตนและคู่กรณีไม่เคยมีการเจรจากันมาก่อน วันที่เกิดเหตุเป็นการนัดเจรจากันครั้งแรก โดยคู่กรณีมีการเรียกเงิน 9 ล้านจริง ซึ่งตนเป็นแม่บ้าน หาเช้ากินค่ำ จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายในจำนวนมากมายขนาดนั้น ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้รุนแรง แต่ภรรยาของคู่กรณีได้พูดขึ้นว่า ไม่คิดจะขอโทษบ้างหรือ สามีตนที่นั่งหันหน้ามาทางพนักงานสอบสวน จึงเอี้ยวตัวไปขอโทษคู่กรณีที่ยืนอยู่ด้านหลัง ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้รุนแรงตามที่คู่กรณีอ้าง จึงอาจจะเป็นชนวนเหตุที่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ไปเอาปืนมายิงสามีตน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าคู่กรณีจงใจที่จะก่อเหตุหรือไม่ เพราะมีการพกปืนมาด้วย ลักษณะการจอดรถจอดที่หน้าประตู สน.พอดี พอยิงแล้วทั้งคู่ก็วิ่งไปขึ้นรถและหลบหนีไป และมีคนสังเกตเห็นว่า ภรรยาผู้ก่อเหตุมีการใส่เอียร์ปลั๊ก ที่คนซ้อมยิงปืนมักจะใส่กันที่หู จึงตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไม่ได้เตรียมการ หรือมีส่วนรู้เห็น จะมีการใส่เอียร์ปลั๊กมาก่อนเพื่ออะไร

ทั้งนี้ ตนมองว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงเกินไป จากเหตุทะเลาะวิวาท กลายมาเป็นเหตุยิงกันตาย แถมไม่ได้ยิงนัดเดียว คนร้ายยิงจนหมดแม็กในพื้นที่บนโรงพัก สถานีตำรวจเป็นที่พึ่งพาของประชาชน แต่กลับถูกยิงตายบนโรงพัก ถ้าหากตอนนั้นตำรวจมีการระงับเหตุอย่างทันท่วงที สามีคงไม่ตาย หลังจากนี้อาจจะมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาเกิดเหตุด้วย เนื่องจากมองว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ท้ายที่สุด ตนอยากถามคนก่อเหตุว่า จิตใจทำด้วยอะไร ตอนที่ยิงสามีของตน ตนและลูกก็นั่งอยู่ตรงนั้น ลูกเห็นพ่อเขาถูกยิง ล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ส่วนสามี อยากบอกว่าให้กลับไปอยู่บ้านด้วยกัน ตนและลูกรออยู่. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก