เบลเยียม 14 ธ.ค. – นายกฯ หารือนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ย้ำความสัมพันธ์ในทุกระดับ พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการค้าการลงทุน โลจิสติกส์ การเกษตร
“เพ็ญพร พิพัฒโนทัย” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 2565 รายงานว่า วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ณ อาคาร Europa พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับนายมาร์ค รึตเตอ (H.E. Mr. Mark Rutte) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทนำในสหภาพยุโรป ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ มีความพิเศษและยาวนาน และในปี พ.ศ. 2567 จะครบรอบ 420 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งทั้งสองประเทศจะได้ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรียินดีกับความก้าวหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างกัน พร้อมร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ด้านนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มุ่งหวังที่จะขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ยืนยันพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความท้าทายระหว่างประเทศ ทั้งสองพร้อมร่วมมือกันรับมือความท้าทาย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยไทยกำลังมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งการประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ได้ขับเคลื่อนเครื่องยนต์เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มี GDP รวมกันกว่าร้อยละ 60 ของโลก และมีจำนวนประชากรกว่าร้อยละ 40 ของโลก และพร้อมสานต่อผลลัพธ์สำคัญของเอเปคร่วมกับสหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า จึงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับประเทศนอกภูมิภาคเอเปค รวมถึงเนเธอร์แลนด์ ในการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญ อาทิ เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG และการฟื้นฟูการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกปลอดภัย เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี ได้เชิญเนเธอร์แลนด์มาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งพิจารณาใช้ไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งไทยมีนโยบาย EV 30@30 มีเป้าหมายผลิต EV ในไทยให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ภายในปี 2030 และมีมาตรการสนับสนุนราคารถ EV และสถานีชาร์จไฟฟ้า และชื่นชมเนเธอร์แลนด์ในฐานะประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรมากเป็นอันดับสองของโลก หวังร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกันต่อไป
อีกทั้งเห็นพ้องต่อการยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยไทยและเนเธอร์แลนด์สามารถเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างสองภูมิภาค ผู้นำทั้งสองยังยินดีกับการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษในครั้งนี้ ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้นำของทั้งสองภูมิภาคได้พบปะและผลักดันความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและวาระสีเขียวในภูมิภาคต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอรับการสนับสนุนการสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028-Phuket Thailand โดยหวังที่จะให้เวทีนี้เป็นเวทีให้นานาประเทศนำเสนอแนวทางเพื่อเป็นทางออกร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความร่วมมือสู่ความยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย