โฮจิมินห์ 14 ธ.ค.- คนงานโรงงานในเวียดนามที่ส่วนใหญ่เป็นสตรีถูกเลิกจ้างจำนวนมาก อันเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคในโลกตะวันตกลดการใช้จ่ายเนื่องจากเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ
เวียดนามเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้า รองเท้าและเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก วิกฤตค่าครองชีพในตลาดหลักทำให้ยอดสั่งซื้อสินค้าผลิตในเวียดนามลดลง ยอดสั่งซื้อจากยุโรปลดลงร้อยละ 30-40 จากปีก่อน และยอดสั่งซื้อจากสหรัฐลดลงถึงร้อยละ 60 จากปีก่อน กระทบต่อคนงานโรงงานที่เป็นสตรีมากถึงร้อยละ 80 ข้อมูลของสมาพันธ์แรงงานเวียดนามระบุว่า นับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา มีบริษัทมากกว่า 1,200 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทสิ่งทอ รองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ต่างชาติที่เลิกจ้างหรือลดชั่วโมงทำงาน คนงานมากกว่า 470,000 คนถูกลดชั่วโมงทำงานในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และมี 40,000 คนถูกเลิกจ้าง ในจำนวนนี้ 30,000 คนเป็นสตรีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี
โรงงานผลิตรองเท้าของไต้หวันที่ผลิตให้แก่ตราสินค้าตะวันตกชื่อดังประกาศเลิกจ้างคนงานในเวียดนาม 1,200 คน จากที่มีอยู่ทั้งหมด 1,800 คน โรงงานผลิตรองเท้าของไต้หวันอีกแห่งให้พนักงาน 20,000 คนลางานโดยได้รับเงินเดือนแบบหมุนเวียนกัน ขณะที่ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้เริ่มลดกำลังผลิตสมาร์ทโฟนที่โรงงานทางตอนเหนือของเวียดนาม คนงานระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้แย่ยิ่งกว่าช่วงโควิด-19 ระบาด เพราะช่วงนั้นยังได้รับอาหารแจกในระหว่างที่ต้องกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด และเมื่อทางการยกเลิกมาตรการจำกัดเมื่อสิ้นปี 2564 ความต้องการสินค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รองประธานสมาคมธุรกิจโฮจิมินห์ชี้ว่า เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจส่งออกของเวียดนามเพิ่งเดินหน้าเต็มสูบในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่า การชะลอตัวในเวียดนามจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากการลดกำลังผลิตช่วงโควิดระบาดทำให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และปีหน้าน่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย.-สำนักข่าวไทย