รัฐสภา 10 พ.ย.- “รังสิมา” เชียร์ ประธานสภาฯ ล้มประมูลร้านอาหารจัดเลี้ยง ส.ส.-ส.ว. หลังเกิดข้อครหาล็อบบี้จ่ายเงินใต้โต๊ะ เสนอใช้วิธีแตะบัตรแบบศูนย์อาหาร คาดไม่ต้องใช้งบถึง 100 ล้านบาท
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการร้านอาหารจัดเลี้ยง ส.ส.และ ส.ว. เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลการคัดเลือกผู้ประกอบการยังไม่ออก แต่เมื่อนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยว่ามีการล็อบบี้และจ่ายเงินประมูลร้านอาหารจัดเลี้ยง ส.ส. ซึ่งคนมองว่า ทำให้เกิดความเสียหายกับคณะกรรมการฯ จึงอยากให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ตรวจสอบว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และมีการจ่ายเงินกันจริงหรือไม่ หากเกิดขึ้นจริง ต้องทำโทษ เพราะทำให้สภาเสียหาย แต่ส่วนตัว ไม่ทราบว่า มี ส.ส.ถูกล็อบบี้กี่คน เพราะคิดว่าคงไม่กล้ามาล็อบบี้ตนเอง ซึ่งในขั้นตอนคัดเลือก ก็จะชิมว่า ร้านนี้รสชาติและคุณภาพเป็นอย่างไร สะอาดหรือไม่ แต่หากมีเรื่องอย่างนี้ ก็ไม่ควรมีผลการคัดเลือกออกมา เพราะถือว่าไม่โปร่งใส
“ควรยกเลิกวิธีการเก่าๆ นี้ไปเลย ไม่ต้องประมูลใหม่ โดยอยากให้เปลี่ยนวิธีการไปใช้บัตรเติมเงินเหมือนศูนย์อาหาร เพื่อให้ ส.ส.มีโอกาสได้เลือกร้านที่อยากรับประทาน และไม่ต้องเกิดปัญหาการผูกขาดร้านใดร้านหนึ่ง และจะทำให้เงินงบประมาณเหลืออีกมาก เพราะหากใช้เงินในบัตรทานอาหารไม่หมด ก็เหลือคืนคลังได้” น.ส.รังสิมา กล่าว
นางสาวรังสิมา ยังกล่าวถึงค่าอาหารของ ส.ส.ว่า ปกติแล้ว 1 วันประชุมจะได้คนละ 1,000 บาท วันละ 500,000 บาท คิดเป็นงบประมาณต่อปีประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นอาหารที่ทางร้านจัดมาให้ ไม่มีสิทธิ์เลือกรับประทาน อย่างไรก็ตาม มองว่า 1,000 บาทสำหรับ ส.ส.ไม่ถือว่าแพงเกินไป เพราะทำงานให้กับประชาชน ไม่สามารถออกไปกินข้างนอกได้ เพราะต้องประชุมสภาฯ แต่ถ้าใช้วิธีแตะบัตรเติมเงิน น่าจะใช้งบประมาณแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาสภามีข้อครหาว่า มีการผูกขาดร้านอาหารจริงหรือไม่
นางสาวรังสิมา ยอมรับว่า เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงแค่ 1-2 ร้าน แต่บางร้านเข้ามาก็ถูกกลั่นแกล้ง ทั้งเอาเกลือไปโรย เอาข้าวสารไป ร้านนั้นก็อยู่ไม่ได้ ประกอบกับร้านที่จัดเลี้ยงให้ ส.ส.-ส.ว.ในสภา ต้องทุนหนา เพราะเกิดเหตุการณ์จาน ชาม ช้อน หายทุกวัน บางคนกินแล้วก็เอากลับไปเก็บไว้ที่ห้องพักส่วนตัว แล้วไม่เอามาคืน ดังนั้น ร้านอาหารที่ไม่มีทุนหนาก็เจ๊งทั้งหมด จึงเหลือเพียงไม่กี่เจ้าที่ทำธุรกิจแล้วมาประมูลได้.-สำนักข่าวไทย