ทำเนียบฯ 7 พ.ย.- นายกฯ มอบนโยบายหาของดีประจำจังหวัด ส่งเสริมและพัฒนาในทุกจังหวัด เชื่อ หากมีจุดขายในจังหวัด จะทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดเติบโต สั่งทำแผนมาเสนอในการประชุม ก.น.จ. เดือน ม.ค. 60 พิจารณาร่วมงบอัดฉีด 2.8 หมื่นล้าน
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผย ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) วันนี้ (7 พ.ย.) มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลักเกณฑ์และแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 4 ปี ระหว่างปี 2561-2564 ซึ่งตรงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ก่อนที่จะปรับแผนเป็นระยะ 5 ปี ให้สอดคล้องกับระยะเวลาตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ
“นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดจัดทำแผนพัฒนา ให้สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และทำงานในรูปแบบประชารัฐบูรณาการ ทั้งจากระดับส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น ทำงานร่วมกับภาคเอกชน” นายทศพร กล่าว
นายทศพร กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ระดับตำบลและอำเภอ และเสนอมายังระดับจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีให้นโยบายให้ทำงานในเชิงรุก ให้แต่ละจังหวัดนำเสนอของดีประจำจังหวัด และพัฒนาสินค้า ด้วยการส่งเสริมด้านนวัตกรรมเพิ่มเติม และให้ส่งกลับมาที่ประชุมพิจารณาในเดือนมกราคม 2560
“นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า หากแต่ละจังหวัดสามารถเสนอจุดขายเป็นของตัวเองได้ จะทำให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้น ซึ่งประชุมได้ยกตัวอย่าง จังหวัดลำปาง ที่มีสับปะรดขึ้นชื่อ ต้องคิดหาแผนเพิ่มมูลค่าสินค้า / หรือน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ทีขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูน ก็ควรพัฒนาศักยภาพให้เทียบเท่าออนเซ็นของประเทศญี่ปุ่น” นายทศพร กล่าว
นายทศพร กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณา โดยอาจจะมีการเพิ่มงบประมาณในการดำเนินการ ประมาณ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณลงแต่ละจังหวัดรวม 19,600 ล้านบาท และ งบประมาณกลุ่มจังหวัดอีก 8,400 ล้านบาท โดยจะมีการพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ในการประชุมครั้งต่อไปช่วงเดือนมกราคม 2560 .- สำนักข่าวไทย
