นครสวรรค์ 8 ต.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์นำคณะลุยจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมประกาศเดินหน้าประกันรายได้ปี 4 เพื่อช่วยลดภาระให้เกษตรกร และยังมอบโฉนดกองทุนฟื้นฟูฯ ให้กับเกษตรกรด้วย เตรียมงบกลางอีกกว่า 1,000 ล้านบาท แก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างเต็มที
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร และเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชําระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางพรเพรช เขมวิรัตน์รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายสมยศ ภิราญคำ เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อําเภอเมืองจ.นครสวรรค์
ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้เกษตรกรตนเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายนี้ เป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยรัฐบาลต้องการผลักดันราคาพืชผลการเกษตรให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาราคาพืชผลการเกษตรมีโอกาสอยู่ในช่วงราคาดีและตกต่ำได้ เพราะขึ้นกับสถานการณ์ที่เรียกว่ากลไกตลาด ที่เกี่ยวกับความต้องการของตลาดโลก ขึ้นอยู่กับกลไกตลาดโลก ทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอน แต่วันนี้ราคาพืชเกษตรสำคัญดีขึ้นมากเกือบทุกตัว แต่บางช่วงถ้าเกิดวิกฤติราคาพืชเกษตรตกลงมา ก็ยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรให้อย่างน้อยมีรายได้เท่ากับรายได้ที่ประกัน โอนเงินเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ให้มีหลักประกันในเรื่องของรายได้ ทำมาตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา และปี 4 ตนเป็นประธานในที่ประชุมมีมติยืนยันโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืช 5 ชนิด เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรอการพิจารณาต่อไป ตามขั้นตอนและโครงการไร่ละ 1,000 อนุกรรมการนโยบายข้าวที่ตนเป็นประธานให้ความเห็นชอบโครงการปีที่ 4 แล้ว หน่วยงานราชการและคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาต่อไป และนอกจากโครงการประกันรายได้ข้าว ที่เตรียมงบประมาณไว้ 130,000 ล้านบาทโดยประมาณ ซึ่งที่นาที่โดนน้ำท่วมจะได้รับเงินชดเชยในส่วนน้ำท่วมของกระทรวงมหาดไทย และเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ในที่นาที่น้ำท่วมเพราะถือว่าได้ปลูกจดแจ้งทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส. แล้วมีสิทธิได้รับเงินส่วนต่าง ซึ่งเป็นข้อดีของโครงการประกันรายได้
สำหรับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นนโยบายที่เริ่มต้นในสมัยรัฐบาลชวนสอง(นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง) ขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาดูแลปัญหายาเสพติดและเป็นประธานวิปรัฐบาล มีมติออกพระราชบัญญัติ เพื่อทำภารกิจ 3 เรื่อง 1.การแก้ปัญญาหนี้สินให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิก ให้มาเป็นหนี้กับกองทุนฯและดอกเบี้ยต่ำ ตอนนี้คิดดอกเบี้ย 0% จะคือโฉนดเมื่อผ่อนชำระครบ 2. ซื้อทรัพย์จากสถาบันการเงินมาเป็นของกองทุนฯให้เจ้าของที่ดินเดิมผ่อนชำระ เมื่อครบจะได้โฉนดคืน และ3. จัดโครงการฟื้นฟูชีวิตเกษตรกร ให้เกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มสหกรณ์กลุ่มเกษตรกร ขอโครงการไปฟื้นฟูชีวิตต่อไป
ทั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูฯจะดูแลพี่น้องครบวงจรตั้งแต่แก้ปัญหาหนี้และฟื้นฟูชีวิตเกษตรกรที่เป็นสมาชิก กองทุนฯวันนี้มีสมาชิก 5,600,000 คน และไม่มียุคไหนมีเงินช่วยพี่น้องมากเท่ายุคนี้ ไม่กี่วันมานี้ตนประสานงานกับท่านนายกฯของบกลางได้อีก ซึ่งเกือบ 20 ปีได้งบมา 6,000 ล้านบาท แต่ 2 ปีนี้ได้มา 2,500 ล้านบาทแล้ว ใช้ไปแล้ว 1,500 ล้านบาทยังเหลืออีก 1,000 ล้านบาทที่จะมาแก้ปัญหาให้พี่น้องต่อไป
“รัฐบาลเข้าสู่ปีสุดท้าย ปีที่ 4 ของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ถ้าอยู่ครบเทอมจะหมดวาระวันที่ 24 มีนาคม 2566 สำหรับจังหวัดนครสวรรค์โครงการประกันรายได้ เฉพาะข้าว 3 ปี จ่ายเงินเกษตรกรส่วนต่าง เฉลี่ย รายละ 69,000 บาทยางพาราเฉลี่ยรายละ 16,444 บาท มันสำปะหลังเฉลี่ยรายละ 25,696 บาท ข้าวโพดเฉลี่ยรายละ 8,652 บาท ปาล์มน้ำมันเฉลี่ยรายละ 15,219 บาท” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายจุรินทร์เข้าร่วมงานได้ มีการเดินชมของดีของเด่น ของ จ.นครสวรรค์ และมีประชาชนชาวนครสวรรค์ มารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก ขอถ่ายรูปร่วมกับนายจุรินทร์ บรรยากาศอย่างเป็นกันเอง ซึ่งชาวบ้านต่างดีใจที่ได้พบกับนายจุรินทร์และที่ได้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกรซึ่งดำเนินการมาถึงปีที่ 4 แล้ว ซึ่งข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า จ.นครสวรรค์ มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการประกันรายได้พืช 5 ชนิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากว่า 133,850 ราย และเกษตรกรได้รับเงินเฉลี่ยรายละ 55,641 บาทเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย