นนทบุรี 6 ต.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในระบุสตอกปุ๋ยภายในประเทศขณะนี้มีถึง 1.5 ล้านตัน ถือว่ามีปริมาณเพียงพอต่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรทั่วประเทศ ย้ำขณะที่ราคาที่สูงขึ้นจากปัจจัยภายนอกเริ่มลดลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสูงอยู่พอควร ชี้กรมการค้าภายในจะเฝ้าติดตามและยังคุมเข้มต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบมากเกินไป
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผย ปริมาณสตอกปุ๋ยเคมีของผู้ผลิต/ผู้นำเข้าทุกรายรวมกัน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 1.50 ล้านตัน มากกว่าปริมาณสตอกในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกของเกษตรกร ดังนั้น จึงถือได้ว่าปัญหาด้านปริมาณได้ผ่อนคลายลงแล้ว
ส่วนราคาปุ๋ยเคมีขณะนี้ได้ปรับลดลงมาแล้ว ตามสถานการณ์ราคาและความต้องการปุ๋ยเคมีในตลาดโลกที่ลดลงในช่วงนี้ ประกอบกับปริมาณปุ๋ยเคมีในประเทศที่มีเพียงพอทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาระหว่างผู้ผลิต/ผู้นำเข้าของไทยแต่ละราย อาทิ ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ที่ราคาได้ปรับลดลงมาประมาณ 15-20% แม้ราคาลดมาบ้าง แต่ยอมรับว่าราคาปุ๋ยเคมียังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่จากปัจจัยด้านสงครามรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นธรรมด้านราคาให้แก่พี่น้องเกษตรกรและป้องกันไม่ให้มีการจำหน่ายในราคาแพงเกินสมควร กรมการค้าภายในได้ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศลงพื้นที่สืบราคาและรายงานราคาจำหน่ายปลีกปุ๋ยเคมีให้กรมฯ ทราบเป็นประจำทุกสัปดาห์ และขอความร่วมมือให้สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ร่วมสอดส่องดูแลและกำชับไปยังตัวแทนจำหน่ายให้ขายปุ๋ยเคมีในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน ห้ามฉวยโอกาสขายในราคาแพงเกินสมควร
ทั้งนี้ หากพบการฉวยโอกาส นอกจากจะมีโทษตามกฎหมาย จำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังจะถูกเพิกถอนหรือระงับการเป็นตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือพบการกระทำผิดดังกล่าวสามารถแจ้งหรือร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด.-สำนักข่าวไทย