อุบลราชธานี 4 ต.ค. – นายกฯ ยืนยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน กำชับส่วนราชการเร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เตรียมจ่ายเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย และเยี่ยมเยียนบ้านเรือนประชาชน ณ ชุมชนวัดวารินทราราม ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ย้ำการลงพื้นที่เพื่อมาให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม และต้องการรับทราบข้อมูลปัญหาในพื้นที่โดยตรง จะได้นำไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด พร้อมทั้งติดตามการแก้ไขปัญหา ซึ่งบางพื้นที่ได้รับการแก้ไขปัญหาแล้ว แต่บางพื้นที่ยังทรงตัว ยืนยันรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา โดยได้เตรียมงบประมาณไว้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว
นายกรัฐมนตรี กำชับเรื่องการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลาย ขอให้ส่วนราชการเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายให้ถี่ถ้วนครอบคลุมความเสียหายทุกด้าน พร้อมนำเสนองบประมาณให้รัฐบาลพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อเร่งจ่ายเงินให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน นำไปใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขอให้บูรณาการทำงานโดยเฉพาะส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นส่วนหน้าใกล้ชิดประชาชน ขอให้ทำงานอย่างเป็นเอกภาพ อย่าขัดแย้งกัน ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ไขปัญหาเป็นหนึ่งเดียวกัน
“สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกสบายใจ เชื่อมั่นต่อการทำงานของส่วนราชการและรัฐบาล ว่าไม่ได้ทอดทิ้งให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อมีปัญหาสามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ทุกพื้นที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเท่าๆ กัน ไม่เลือกพื้นที่ช่วยเหลือ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย และเยี่ยมเยียนบ้านเรือนประชาชน ณ ชุมชนวัดวารินทราราม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นำกำลังใจและความห่วงใยของรัฐบาลและประชาชนทั่วประเทศมามอบให้ชาวอุบลราชธานี เข้าใจและเห็นใจผู้ประสบภัย สาเหตุน้ำท่วมมาจากพายุโนรู และปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาจำนวนมากกว่าแหล่งน้ำจะรับได้ รัฐบาลและทุกภาคส่วนได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ในการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมประชาชนที่เข้าใจสาเหตุน้ำท่วม และปรับสภาพความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหา พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมให้กำลังใจจิตอาสาจากหน่วยงานต่างๆ ที่คอยช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมตัดผมให้กับประชาชนด้วย
สำหรับ จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จํานวน 17 อําเภอ คาดว่ามีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 131,037.50 ไร่ พื้นที่ประมงได้รับผลกระทบ 10 อำเภอ คาดว่าได้รับความเสียหาย 581.75 ไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 21,235 ครัวเรือน ด้านการช่วยเหลือและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยขึ้น โดยบูรณาการการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โดยการเชื่อมโยงข้อมูลการวิเคราะห์สถานการณ์ และการคาดการณ์จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลในการขับเคลื่อนมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัด มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ การติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำ รวมถึงใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผลกระทบต่อประชาชนที่อาจจะขยายวงกว้างขึ้นในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อป้องกันและลดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถเตรียมรับสถานการณ์ได้ทันต่อเหตุการณ์
ในส่วนของโครงการชลประทานอุบลราชธานี สํานักงานชลประทานที่ 7 ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้เพิ่มการระบายนํ้าจากเขื่อนลําโดมใหญ่ให้ระบายลงสู่แม่น้ำมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ สํานักเครื่องจักรกล ติดตั้งเครื่องผลักดันนํ้าในลํานํ้ามูล 140 เครื่อง บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร ติดตั้งเครื่อง Hydro Flow 10 เครื่อง และเครื่องสูบนํ้าอีก 10 เครื่อง บริเวณแก่งสะพือ เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงแล้ว. – สำนักข่าวไทย