สำนักข่าวไทย 19 ก.ย. – ศาลฎีกานักการเมืองนัดฟังคำพิพากษาพรุ่งนี้ “สุเทพ” กับพวก คดีฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน 396 หลัง ทนายความเผยเจ้าตัวพร้อมไม่กังวลใจ มั่นใจเสนอข้อเท็จจริงศาลพิจารณา หากผลเป็นลบเตรียมเงินประกัน
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีฮั้วประมูลสร้างโรงพักทดแทนกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) ศาลฎีกานักการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ซึ่งนายสุเทพพร้อมที่จะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษา ในส่วนของจำเลยคนอื่นนั้น เมื่อศาลนัดแล้วและเป็นการนัดล่วงหน้าเป็นเดือนทุกคนก็คงต้องมีความพร้อม ซึ่งนายสุเทพและทีมกฎหมายไม่มีความกังวลใจ เพราะไม่มีอะไรต้องให้กังวล เนื่องจากได้เสนอข้อเท็จจริงให้ศาลไปทั้งหมดแล้ว มั่นใจในข้อเท็จจริงที่เสนอให้ศาลพิจารณา ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเช่นไร ไม่อาจรู้ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาล แต่มั่นใจในข้อมูลข้อเท็จจริงที่นำเสนอไป
เมื่อถามกรณีหากผลคำพิพากษาออกมาไม่เป็นคุณกับฝ่ายจำเลยมีการเตรียมพร้อมไว้อย่างไรนั้น นายสวัสดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นปกติของทนายความทุกคดีที่ต้องมีการเตรียมพร้อมเรื่องหลักประกัน โดยหลักทรัพย์เดิมก็ใช้ได้อยู่เเล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ก่อนเข้าฟังคำพิพากษานายสุเทพ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดอ่านคำพิพากษาที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทนโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)
โดย ป.ป.ช. โจทก์ ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.52-18 เม.ย.56 จำเลยที่ 1 เเละที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาภาคแยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาได้เสนอ ราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบ เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา ต่อมาจำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจ แห่งชาติเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3, 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10,12 กับลงโทษจำเลยที่ 5, 6 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.65 ศาลฎีกาคดีนักการเมืองได้นัดพิจารณาครั้งแรก และได้อ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การ ซึ่งจำเลยทั้ง 6 ให้การปฏิเสธข้อต่อสู้คดี ศาลจึงนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัด ครั้งเเรกวันที่ 2, 30 มิ.ย. เเละวันที่ 7 ก.ค.นี้ และนัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19, 21, 26 ก.ค. จนเสร็จสิ้นแล้วจึงนัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันและเวลาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย