พระนครศรีอยุธยา 18 เม.ย.- ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยาย้ำยังไม่ตัดประเด็นเหตุไฟไหม้ศาลาจัดแสดงแบบจำลองพระราชวังโบราณ ทุกอย่างต้องชัดเจน-รอบคอบ แม้ประเด็นระบบไฟที่ กฟภ.ตรวจสอบแล้วไม่พบการลัดวงจร รอตรวจอีกพิมพ์เขียวจากกรมศิลปากร
พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พงษ์นเรศวร์ ตันติวัฒนา ผู้กำกับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 นายบรรพจน์ ชาญกิจกรรณ์ รองผู้จัดการฝ่ายเทคนิค สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทีมช่าง กฟภ.จังหวัด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ศาลาจัดแสดงแบบจำลองพระราชวังโบราณ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
นายบรรพจน์ กล่าวว่า บริเวณเบรกเกอร์หรือสะพานไฟฟ้า ที่ควบคุมระบบไฟฟ้าในอาคาร ไม่พบร่องรอยไฟฟ้าช๊อต และหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ในตำแหน่งปิดการทำงาน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในอาคาร คือทีวี ไม่พบการช็อตของกระแสไฟเช่นกัน หากมีกระแสไฟฟ้าย้อนกลับเข้ามา แผงวงจรต้องมีรอยไหม้ ในชั้นนี้จึงเชื่อได้ว่าไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีกระแสไฟฟ้าไหลย้อนเข้าในอาคารอย่างแน่นอน เพราะมีการสับเบรกเกอร์ลง ทั้งที่หม้อแปลงใหญ่และที่เบรกเกอร์ในตัวอาคารอยู่แล้ว
นายบรรพจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ว่าจะมีไฟฟ้ารั่วทางดินเข้ามาที่ตัวอาคาร หรือกระแสไฟฟ้ากระชากกระตุกจนไหลย้อนกลับนั้น หากเป็นจริง ชุมชนโดยรอบหรือในจุดอื่นที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จะต้องได้รับผลกระทบด้วย แต่ที่ตรวจสอบไม่พบผิดปกติ
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงค์ กล่าวว่า สาเหตุเพลิงไหม้ยังตั้งไว้หลายประเด็นทั้งการลอบวางเพลิง ความประมาท เช่น ทิ้งก้นบุหรี่ และกระแสไฟฟ้าลัดจงจร ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบแต่ละประเด็นให้ชัดเจน แม้ช่างไฟฟ้ายืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าช็อตในอาคาร แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องขอเวลาตรวจสอบให้ละเอียดและภายในสัปดาห์นี้กรมศิลปากรจะนำแบบพิมพ์เขียวระบบไฟฟ้าของอาคารมามอบให้การไฟฟ้าฯ ใช้ประกอบการตรวจสอบ
“ช่วงนี้ขอเวลาในการทำงานอย่างละเอียด เพื่อแสวงหาหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุด และยังกันพื้นที่บริเวณเพลิงไหม้เป็นเขตจำเพาะห้ามเข้า เพื่อป้องกันบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้ามากระทบต่อหลักฐาน”.-สำนักข่าวไทย