สงขลา 17 ก.ย. – ตำรวจแถลงปิดฉาก 2 โจรอ้วนผอม “แก๊งไอ้โม่งลิง” ก่อคดีลักทรัพย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ใต้สุดยันเหนือสุดแดนสยาม ตลอด 7 ปี 25 คดี ได้เงินสดและทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท หลังตำรวจใช้เวลาเกือบ 1 ปี สืบสวนจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมนายสมพร อายุ 44 ปี และนายวสันต์ อายุ 39 ปี ชาว อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็น 2 จอมโจรอ้วนผอม แก๊งไอ้โม่งลิง ก่อเหตุลักทรัพย์หลายจังหวัดทั่วประเทศ ใต้สุดแดนสยาม อ.เบตง จ.ยะลา ถึงเหนือสุดแดนสยาม จ.เชียงราย รวม 25 คดี ในช่วงเวลา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2565 กวาดทั้งเงินสดและทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท และแทบไม่ทิ้งหลักฐานหรือร่องรอยให้สืบสวนติดตามจับกุมได้ โดยตำรวจสืบสวนรวบรวมหลักฐานมาเกือบ 1 ปีเต็ม จนขออนุมัติศาลออกหมายจับ และจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.สตูล และยะลา ยึดของกลาง 19 รายการ เช่น นาฬิกาหรู 8 เรือน รถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน หมวกโม่งลิง 15 ใบ ถุงมือผ้ายาว 7 คู่ รองเท้าหุ้มส้นแบบสตั๊ดดอยสีดำ 6 คู่ กระเป๋าเป้ 5 ใบ และอุปกรณ์งัดแงะจำนวนมาก รวมมูลค่า 3 ล้านบาท
ด้านตำรวจให้ข้อมูลว่า ทั้งคู่มักจะตระเวนก่อเหตุ โดยสวมไอ้โม่งลิงคลุมหัว สวมเสื้อผ้าคล้ายชุด PPE ตระเวนลักทรัพย์ เน้นการเจาะเซฟ และจะเลือกลงมือก่อเหตุ ทั้งปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส สหกรณ์การเกษตร โรงงานปาล์มน้ำมัน ร้านค้าขนาดใหญ่ ร้านรับส่งพัสดุ มัสยิด รวมถึงบ้านที่มีฐานะ ทั่วประเทศ เช่น อ.เบตง จ.ยะลา 2 ครั้ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 3 ครั้ง พื้นที่ จ.สตูล 9 ครั้ง จ.สุพรรณบุรี 2 ครั้ง จ.พะเยา 2 ครั้ง จ.ลำปาง 1 ครั้ง และ จ.เชียงราย 6 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการเจาะเซฟถึง 17 คดี โดยเคสที่ได้ทรัพย์สินไปมากที่สุด คือ ลักทรัพย์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กวาดทรัพย์สินทั้งเงินสดและของมีค่าไปกว่า 21 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงวันที่ 13-28 พฤศจิกายน 2563 และย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งที่บ้านหลังเดิม เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2565 แต่ไม่ได้อะไรไป และเจ้าของบ้านได้ติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ จึงจับภาพทั้งสองคนเอาไว้ได้
ทั้งนี้ ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่มีการเจาะเซฟอย่างชัดเจน คือ ที่สหกรณ์การเกษตรทุ่งหว้า จ.สตูล เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ได้เงินสดไปกว่า 2 แสนบาท โดยใช้เครื่องเจียร์ตัดตู้เซฟ ส่วนเคสอื่นๆ มูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 1 แสนบาท จนถึง 1 ล้านบาท ขณะที่บางเคสได้แค่ 2,000 บาท และมีบางเคสที่ไม่ได้อะไรติดมือไปเลย
สอบสวนทั้งสองคนรับสารภาพว่า เท่าที่จำได้ เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2560-2565 ประมาณ 20 ครั้ง ประกอบด้วย พื้นที่ภาคใต้ 12 ครั้ง และ จ.เชียงราย 6 ครั้ง ส่วนคดีอื่นๆ ทั้งสองคนอ้างว่าจำไม่ได้ เพราะก่อเหตุมามาก บางครั้งก็ลงมือก่อเหตุ 2 คน บางครั้งก็ 3 คน ครั้งล่าสุดก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนพัฒนา 6 อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไป 6 แสนบาท และเป็นการยกตู้เซฟไป หลังก่อเหตุจะนำเงินและทรัพย์สินที่ได้มาแบ่งกัน และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัวเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่นายสมพร บอกว่า นอกจากนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังนำไปรักษาตัวด้วย เพราะตอนนี้ป่วยเป็น HIV ขณะที่นายวสันต์ ยกมือไหว้ขอโทษทุกคนที่เคยเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา เช่น ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป. – สำนักข่าวไทย