ปราก 1 ก.ย. – บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรืออียู มีมติเห็นพ้องระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซีย ซึ่งจะทำให้ชาวรัสเซียได้รับวีซ่าเดินทางเข้าอียูยากขึ้น แต่ไม่ได้ประกาศแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู กล่าวในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า อียูจำเป็นต้องระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซียหลังพบว่ามีพลเมืองรัสเซียเดินทางข้ามแดนผ่านเข้าอียูเพิ่มขึ้นอย่างมากจนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อประเทศสมาชิกของอียูที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย และมีชาวรัสเซียจำนวนมากที่เดินทางมาพักผ่อนหรือช็อปปิงในประเทศสมาชิกของอียูราวกับว่าไม่มีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน แต่เขาไม่เห็นด้วยกับการประกาศแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย เพราะจะส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียที่ต่อต้านสงครามยูเครนหรือภาคประชาสังคมในรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ประเทศสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซียมีอิสระที่จะประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของพลเมืองรัสเซีย
ในขณะเดียวกัน นายอเล็กซานเดอร์ กลุชโก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของอียูเปรียบเหมือนกับการตัดสินใจยิงปืนใส่เท้าตนเอง ส่วนนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศยูเครน กล่าวตำหนิการใช้มาตรการของอียูว่าเป็นแนวทางแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซีย ได้แก่ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า อาจใช้คำสั่งแบนหรือจำกัดวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคง แต่ฝรั่งเศสกับเยอรมนีระบุในแถลงการณ์ร่วมกันโดยเตือนเรื่องการใช้คำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามมากขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย