กรุงเทพฯ 26 ส.ค.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำลายของก๊อปปี้คดีที่สิ้นสุดแล้วจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ากว่า 173 ล้านบาท พร้อมประกาศทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชน สร้างความมั่นใจให้ประเทศคู่ค้าและนักลงทุนพร้อมปกป้องผู้บริโภคจากสินค้าด้อยคุณภาพ
นายสินิตย์ เสิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว กว่า 400,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 173 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าและนักลงทุน พร้อมย้ำห่วงใยสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ผู้แทนประเทศคู่ค้าสำคัญ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ดอนเมือง
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปกป้องคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเดินหน้าปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มงวดทุกช่องทาง ส่งผลให้ในรายงานตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลก ประจำปี 2564 (2021 Review of Notorious Markets for Counterfeiting and Piracy) ของสหรัฐ ไม่ปรากฏย่านการค้าและตลาดออนไลน์ของไทยแม้แต่แห่งเดียว ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติตลอดจนภาคเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
อย่างไรก็ตาม พิธีทำลายของกลางดังกล่าวถือเป็นกลไกสำคัญของการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) และเป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ค้า นักลงทุน และเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ว่าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจะไม่กลับเข้ามาสู่ท้องตลาดอีกต่อไป ซึ่งสินค้าละเมิดเหล่านี้นอกจากจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงอยากให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพิษภัยและผลกระทบดังกล่าวด้วย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ในปีนี้มีของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วที่ต้องนำมาทำลายทั้งสิ้น 404,985 ชิ้น ประกอบด้วย สินค้าหลากหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋าเข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี/วีซีดี แว่นตา เครื่องสำอาง อะไหล่รถยนต์ และสินค้าอาหาร เป็นต้น โดยเป็นของกลางจากการจับกุมและตรวจยึดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 93,945 ชิ้น กรมศุลกากร 124,561 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ 186,479 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 173 ล้านบาท โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เจ้าของสิทธิ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ถือเป็นแนวร่วมสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศคู่ค้า นักลงทุน สร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับสินค้าและบริการด้วยทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งหากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้.-สำนักข่าวไทย