รร.เรอเนสซอง 24 ธ.ค.-อว.สรุปผลงานเด่นปี 63 สร้างนวัตกรรมรับมือการระบาดของโควิด 19 ชูยุทธศาสตร์ปี 64 เน้นเพิ่มทักษะดิจิตอลบัณฑิตจบใหม่ พร้อมขับเคลื่อนโครงการ“มหาวิทยาลัยสู่ตำบล” สร้าง 3,000 ทีมสู่ 3,000 ตำบล สั่งการโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยพร้อมรับการระบาดระลอกใหม่
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงสรุปผลงานเด่น ปี 2563 และแผนยุทธศาสตร์ปี 2564 ในภาวะวิกฤติโควิด-19 ว่า นโยบายสำคัญเร่งด่วน หรือ Quick Wins มี 5 เรื่อง ได้แก่ 1. โครงการเพิ่มทักษะ (Reskill/Upskill) ให้บัณฑิตจบใหม่และผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดงาน ในทักษะด้านดิจิทัลและเรียนรู้ในสถานที่ทำงานจริง 2. Thailand Hackathon 3. Thailand Foresight Consortium 4.กระทรวง อว.นำพลังปัญญาเพื่อพัฒนาชาติ 1 สถาบันอุดมศึกษา 1 พื้นที่ 5. เปลี่ยนคนเกษียณเป็นพลัง โดยมุ่งเน้นขับเคลื่อนผ่านโครงการ 3 เรื่องสำคัญพร้อมกัน คือ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ”, “การจัดตั้ง อว. ส่วนหน้า” รวมทั้ง “การขับเคลื่อนงานวิจัย วิชาการ และนวัตกรรม เพื่อใช้ประโยชน์จากสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์” โดยทั้ง 3 เรื่องเป็นแกนหลักของกลไกการขับเคลื่อนให้โครงการ Quick Wins เกิดผลดังต่อไปนี้ การขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ” โดย อว. ทำงานเพื่อชุมชนโดยตรงและให้นิสิต นักศึกษากว่า 60,000 คนที่เข้าร่วมในโครงการได้รับการฝีกอบรม ติดอาวุธทักษะด้านดิจิทัล ได้ใช้ความรู้ที่ได้รับกับสนามการทำงานจริง ผ่านการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในชุมชนจัดทำเป็นBig Data มาวิเคราะห์และกำหนดรูปแบบการแก้ปัญหาในแต่ละชุมชน
นายเอนก ยังกล่าวถึง โครงการด้านอวกาศ ว่าขณะนี้เด็กไทยทำงานในองค์กรวิทยาศาสตร์ และองค์กรด้านอวกาศสำคัญๆทั่วโลกแล้ว ขณะนี้ประเทศไทยสามารถทำดาวเทียมส่งและรับข้อมูล เพื่อใช้ในหลายวงการทั้งการเกษตรพยากรณ์อากาศข้อมูลน้ำท่วมดินถล่ม เกิดประโยชน์มากมายโดยดาวเทียมมีการโคจรในระดับ 100 กิโลเมตรขึ้นไป ทำให้ อ.ว. จะพัฒนาต่อยอด ก่อนทำดาวเทียมโคจรรอบดวงจันทร์ เพื่อขยายความสามารถในอวกาศของคนไทยทำให้ไทยเข้าร่วมในเรื่องเศรษฐกิจอวกาศได้ในอนาคตอันใกล้
ด้านศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนถึงการระบาดระลอกใหม่ของประเทศไทย กระทรวง อว. ได้ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมต้านโควิด-19 โดยล่าสุดได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด อว. ติดตามสถานการณ์และดำเนินการเชิงรุก พร้อมสั่งการให้โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในสังกัด อว. ทุกแห่งเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์มาตั้งแต่การระบาดช่วงที่แล้วและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทั้งในส่วนของบุคลากร เจ้าหน้าที่ แพทย์และพยาบาล อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ พร้อมปฏิบัติหน้าที่รองรับผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรงพยาบาลของ อว. มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ติดเชื้อทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ สนับสนุนการวิจัยด้านยา ชุดตรวจและวัคซีนรวมทั้งยังได้สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ งานวิจัยและนวัตกรรม ให้กับศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมีสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงฯ ในการเข้าร่วมให้ข้อมูล”ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา กล่าวและที่ผ่านมา หน่วยงานในสังกัด อว. ได้ทำงานกันอย่างแข็งขันมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆขึ้น แก้ปัญหาวิกฤติขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
กระทรวง อว. จึงได้คัดเลือกผลงานเด่นประจำปี 2563 มาจัดแสดงนิทรรศการและมอบรางวัล “ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่นตอบรับชีวิตวิถีใหม่(New Normal) และการปรับตัวอันเนื่องมาจากภาวะวิกฤติโควิด-19” เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้บุคลากรในสังกัด ที่ร่วมระดมสมองในการสร้างสรรค์นวัตกรรมตลอดปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น 2 หมวด 11 นวัตกรรม ได้แก่ หมวดนวัตกรรมสู้วิกฤติโควิด-19 และหมวดนวัตกรรมตอบรับวิถีชีวิตใหม่ เช่น วัคซีนป้องกันโรคจากไวรัสโควิด-19 โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตามนโยบายของ อว. ซึ่งได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบพืชได้สำเร็จแล้วในระดับห้องปฏิบัติการ และพร้อมก้าวไปอีกขั้นในการผลิตวัคซีนได้เองตั้งแต่ต้นน้ำลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ในโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย”
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ : นวัตกรรมชุด PPE Disposable Coverall Level 4 รุ่นเราชนะ สำหรับปฎิบัติงานในสภาวะที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส นวัตกรรมชุด PPE (Isolation Grown) รุ่นเราสู้ สำหรับปฏิบัติงานในสภาวะเสี่ยงน้อยถึงปานกลางหรือการทำหัตถการที่มีเลือดกระเด็นใส่น้อย ชนิดใช้ซ้ำได้ครั้งแรกของโลกที่สามารถซักและใช้ซ้ำได้ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง โดยนวัตกรรมทั้งหมดเป็นผลิตด้วยการรีไซเคิลจากขวด PET
โครงการวิจัยชุดนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อการป้องกัน ตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาการติดเชื้อโควิด-19 โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (ศลช.) : ได้แก่ หน้ากากอนามัย WIN-Masks ที่ทำจากผ้าเคลือบสารนาโนป้องกันไวรัส สามารถซักได้ 30 ครั้ง ซึ่งได้ผลิตและแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์กว่า 2 แสนชิ้นทั่วประเทศ นวัตกรรม AI อัจฉริยะ สำหรับการวินิจฉัย วิเคราะห์ภาพเอ็กซ์เรย์ทรวงอกในการตรวจคัดกรอง โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย