TNA News-Now-Next: “ซอ ชิตตู่” เจ้าพ่อในเครื่องแบบแห่งเมียวดี

เมียวดี 26 เม.ย.- สถานการณ์การสู้รบตลอดเดือนเมษายน ระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านกับกองทัพเมียนมาในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทำให้ชื่อของ พันเอกซอ ชิตตู่ (Saw Chit Thu) ขุนศึกทรงอิทธิพลในเมืองนี้ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในชั่วข้ามคืน บางคนว่าเขาเป็นเจ้าของพื้นที่เมียวดีตัวจริง บางคนว่าเขาเป็นผู้มากบารมีประสานสิบทิศ บางคนว่าเขาเป็นแม่ทัพมาเฟียแห่งแม่น้ำเมย เขาคือใคร ถึงสะเทือนเมียนมาและไทยได้


ลำดับสถานการณ์การสู้รบในเมียวดี

วันที่ 5 เมษายน 2567 กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นแอลเอ (KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยู (KNU) อ้างว่า ได้ร่วมมือกับกองกำลังกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือพีดีเอฟ (PDF) ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมา เข้ายึดที่ตั้งทางทหารหลายแห่งในเมืองเมียวดี ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอเม่สอด จังหวัดตากของไทยโดยมีเพียงแม่น้ำเมยเป็นพรมแดนกั้น พร้อมกับเผยแพร่ภาพอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนมากที่ยึดได้จากทหารเมียนมาราว 600 นายที่ยอมจำนนพร้อมกับครอบครัว หลายฝ่ายมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้แก่เมียนมา เพราะเมียวดีเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทยกับเมียนมา เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,730 ล้านบาท)


เชิญธงเคเอ็นยูที่ค่ายทหารในเมียวดี

ต่อมาวันที่ 10 เมษายน กองกำลังฝ่ายต่อต้านยึดกองทัพทหารราบที่ 275 ค่ายผาซอง ถือเป็นการยึดเมืองเมียวดีได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทหารเมียนมาที่เหลืออยู่ราว 200 นายถอยร่นไปปักหลักอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ขณะที่ผู้คนในเมืองเมียวดีพากันเดินทางมายังจุดผ่านแดนแม่สอดเพื่อเข้ามาหลบภัยในไทย ทางการไทยต้องเสริมกำลังตามแนวชายแดน และจุดกระแสวิตกเรื่องจะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากทะลักเข้าไทย เพราะตัวเลขคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดเพิ่มขึ้นจากวันละ 2,000 คน เป็นวันละเกือบ 4,000 คน

ด่านแม่สอด

วันที่ 24 เมษายน สถานการณ์ในเมืองเมียวดีพลิกผันสร้างความแปลกใจให้แก่ทุกฝ่าย เมื่อเคเอ็นยูถอนกำลังออกจากเมียวดี โดยอ้างว่าเป็นการถอนกำลังชั่วคราว หลังจากทหารกองทัพเมียนมายกกำลังกลับเข้ามา ขณะที่โฆษกรัฐบาลเมียนมายืนยันว่า ทหารสามารถยึดค่ายผาซองกลับมาได้แล้ว และมีข้อตกลงหย่าศึกกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ กำหนดให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่เศรษฐกิจ ยุติการสู้รบและเปิดทางการขนส่งสินค้า กำหนดให้ทหารรัฐบาลที่หลบหนีไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับไปยังที่ตั้งหน่วยกองพัน 275 ค่ายผาซอง และให้เจ้าหน้าที่พลเรือนที่ประจำสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ชื่อของ ซอ ซิตตู่ ปรากฏ


ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังมีความคลุมเครือว่าฝ่ายต่อต้านและฝ่ายรัฐบาลตกลงกันได้อย่างไร ชื่อของพันเอกซอ ชิตตู่ ก็ปรากฏขึ้นในข่าวว่า เขาคือผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ เกิดในรัฐกะเหรี่ยง (Kayin เดิมใช้ว่า Karen) เป็นทั้งทหารและเป็นนักธุรกิจ บางครั้งถูกขนานนานว่า ขุนศึก เป็นอดีตผู้บังคับบัญชากองพัน 999 ของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตยหรือดีเคบีเอ (DKBA) และเข้าร่วมกับกองทัพพม่า ในปี 2537 เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของดีเคบีเอ มีธุรกิจขนาดใหญ่ด้านการค้าไม้ และมีข่าวลือว่าค้ายาเสพติด ต่อมาในปี 2553 เขาได้ยอมรับข้อเสนอของรัฐที่จะเปลี่ยนดีเคบีเอเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยงหรือกะเหรี่ยง บีจีเอฟ (Karen BGF ) ภายใต้การบังคับบัญชาของทัตมาดอว์ (Tatmadaw) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของกองทัพเมียนมา

เฉอ เจ้อเจียง และ ซอ ชิตตู่ ปี 2562
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ ก่อตั้งบริษัทชิต มิน เลียง (Chit Lin Myaing) รับดำเนินโครงการต่าง ๆ และได้รับสิทธิพิเศษในรัฐกะเหรี่ยง จากนั้นในปี 2560 จับมือกับหย่าไถ้ อินเตอร์เนชันนัล กรุ๊ป สร้างเมืองใหม่หย่าไถ้ (Yatai) ขึ้นในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ (Shwe Kokko) แต่ถูกรัฐบาลสมัยนางออง ซาน ซู จี เปิดการสอบสวนโครงการ และระงับการก่อสร้างในปี 2563 บริษัทนี้เป็นของนายเฉอ เจ้อเจียง นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกทางการไทยจับกุมในปี 2565 ตามหมายจับของทางการจีน

หวัน ค็อกคอย ปี 2563
เครดิตภาพ: Bernama

นอกจากนี้ซอ ชิตตู่ยังทำข้อตกลงกับตงเหมย กรุ๊ป พัฒนาเขตอุตสาหกรรมไซซีกัง หรือที่เรียกว่าเมืองเคเค ประธานบริษัทนี้คือนายหวัน ค็อกคอย เจ้าของฉายาคอย ฟันหลอ อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14เค ที่เป็นกลุ่มอาชญากรระดับโลกจากมาเก๊า เขาประกาศในงานเปิดตัวโครงการในปี 2563 ว่า จะพัฒนาเมืองเคเคให้เป็นเซินเจิ้นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลายเป็นว่าเมืองนี้คือแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงคนมาทำงานหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ โดยมีการกักขังและทำร้ายร่างกายอย่างน่ากลัว

วัยรุ่นลาวถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ในรัฐกะเหรี่ยง
เครดิตภาพ: RFA

ภายหลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โครงการเมืองใหม่หย่าไถ้ที่ถูกระงับไปได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ซอ ชิตตู่ได้รับรางวัลยกย่องจากรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2565 ในฐานะผู้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ แต่ในเดือนธันวาคม 2566 เขาถูกสหราชอาณาจักรประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรโทษฐานพัวพันการบังคับใช้แรงงานผู้ถูกล่อลวงให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์

ซอ ซิตตู่และครอบครัวถวายเงินให้พระวีระธุที่มีแนวทางชาตินิยม ปี 2566
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

วันที่ 23 มกราคมปีนี้ ซอ ชิตตู่เผยกับสื่อว่า ได้หารือกับ พล.ท.ซอ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาว่า บีจีเอฟไม่ต้องการรับเงินและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอีกต่อไป เนื่องจากต้องการเป็นอิสระและไม่ต้องการสู้รบกับชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน จากนั้นในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เขาประกาศยุบกะเหรี่ยง บีจีเอฟ และเปลี่ยนเป็นกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติหรือเคเอ็นเอ (KNA)

TNA News-Now-Next: Final Thoughts

ณ วันนี้ 26 เมษายน 2567สถานการณ์การสู้รบในเมียวดีเบาบางลง คนในเมืองเมียวดีที่เข้ามาหลบภัยใน อ.แม่สอด ทยอยเดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางความรู้สึกหวาดหวั่นว่า การสู้รบพร้อมจะปะทุขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ข้อตกลงหย่าศึกที่กองทัพเมียนมาตกลงกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ ให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยจะมีผลบังคับใช้ได้นานแค่ไหน หรือจะมีฝ่ายใดฉีกข้อตกลงก่อน ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ไทยต้องจับตาในฐานะที่มีพรมแดนด้านจังหวัดตากติดกับรัฐกะเหรี่ยง ไม่นับรวมพรมแดนด้านจังหวัดเชียงรายที่ติดกับรัฐฉาน ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งของเมียนมาที่กำลังมีการสู้รบกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงไม่ต่างกัน ส่วนบทบาทของซอ ชิตตู่ นั้นเห็นได้ชัดว่า เวลานี้เขาสามารถประสานประโยชน์ได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล เป้าหมายใหญ่ของเขาคือรักษาความสงบต่อไปแบบนี้แน่นอน  แต่หากมองในทางกลับกันถือว่าเป็นผลร้ายกับประชาชนชาวไทย เพราะในแง่หนี่งการสู้รบรอบนี้เป็นโอกาสดีเพื่อกวาดล้างและกำจัดธุรกิจมืด กาสิโน และ แหล่งอาชญากรรมที่อยู่ข้างรั้วไทย แม้ว่าเมื่อเสียงปืนจางหายไปดูจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศชายแดน แต่แท้จริงแล้วโอกาสในการเก็บกวาดภัยร้ายที่สร้างความทุกข์เข็ญให้คนไทยและอีกหลายชาติก็จางหายไปด้วยเช่นกัน.-814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย