TNA News-Now-Next: “ซอ ชิตตู่” เจ้าพ่อในเครื่องแบบแห่งเมียวดี

เมียวดี 26 เม.ย.- สถานการณ์การสู้รบตลอดเดือนเมษายน ระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านกับกองทัพเมียนมาในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทำให้ชื่อของ พันเอกซอ ชิตตู่ (Saw Chit Thu) ขุนศึกทรงอิทธิพลในเมืองนี้ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในชั่วข้ามคืน บางคนว่าเขาเป็นเจ้าของพื้นที่เมียวดีตัวจริง บางคนว่าเขาเป็นผู้มากบารมีประสานสิบทิศ บางคนว่าเขาเป็นแม่ทัพมาเฟียแห่งแม่น้ำเมย เขาคือใคร ถึงสะเทือนเมียนมาและไทยได้


ลำดับสถานการณ์การสู้รบในเมียวดี

วันที่ 5 เมษายน 2567 กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นแอลเอ (KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยู (KNU) อ้างว่า ได้ร่วมมือกับกองกำลังกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือพีดีเอฟ (PDF) ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมา เข้ายึดที่ตั้งทางทหารหลายแห่งในเมืองเมียวดี ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอเม่สอด จังหวัดตากของไทยโดยมีเพียงแม่น้ำเมยเป็นพรมแดนกั้น พร้อมกับเผยแพร่ภาพอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนมากที่ยึดได้จากทหารเมียนมาราว 600 นายที่ยอมจำนนพร้อมกับครอบครัว หลายฝ่ายมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้แก่เมียนมา เพราะเมียวดีเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทยกับเมียนมา เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,730 ล้านบาท)


เชิญธงเคเอ็นยูที่ค่ายทหารในเมียวดี

ต่อมาวันที่ 10 เมษายน กองกำลังฝ่ายต่อต้านยึดกองทัพทหารราบที่ 275 ค่ายผาซอง ถือเป็นการยึดเมืองเมียวดีได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทหารเมียนมาที่เหลืออยู่ราว 200 นายถอยร่นไปปักหลักอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ขณะที่ผู้คนในเมืองเมียวดีพากันเดินทางมายังจุดผ่านแดนแม่สอดเพื่อเข้ามาหลบภัยในไทย ทางการไทยต้องเสริมกำลังตามแนวชายแดน และจุดกระแสวิตกเรื่องจะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากทะลักเข้าไทย เพราะตัวเลขคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดเพิ่มขึ้นจากวันละ 2,000 คน เป็นวันละเกือบ 4,000 คน

ด่านแม่สอด

วันที่ 24 เมษายน สถานการณ์ในเมืองเมียวดีพลิกผันสร้างความแปลกใจให้แก่ทุกฝ่าย เมื่อเคเอ็นยูถอนกำลังออกจากเมียวดี โดยอ้างว่าเป็นการถอนกำลังชั่วคราว หลังจากทหารกองทัพเมียนมายกกำลังกลับเข้ามา ขณะที่โฆษกรัฐบาลเมียนมายืนยันว่า ทหารสามารถยึดค่ายผาซองกลับมาได้แล้ว และมีข้อตกลงหย่าศึกกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ กำหนดให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่เศรษฐกิจ ยุติการสู้รบและเปิดทางการขนส่งสินค้า กำหนดให้ทหารรัฐบาลที่หลบหนีไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับไปยังที่ตั้งหน่วยกองพัน 275 ค่ายผาซอง และให้เจ้าหน้าที่พลเรือนที่ประจำสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ชื่อของ ซอ ซิตตู่ ปรากฏ


ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังมีความคลุมเครือว่าฝ่ายต่อต้านและฝ่ายรัฐบาลตกลงกันได้อย่างไร ชื่อของพันเอกซอ ชิตตู่ ก็ปรากฏขึ้นในข่าวว่า เขาคือผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ เกิดในรัฐกะเหรี่ยง (Kayin เดิมใช้ว่า Karen) เป็นทั้งทหารและเป็นนักธุรกิจ บางครั้งถูกขนานนานว่า ขุนศึก เป็นอดีตผู้บังคับบัญชากองพัน 999 ของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตยหรือดีเคบีเอ (DKBA) และเข้าร่วมกับกองทัพพม่า ในปี 2537 เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของดีเคบีเอ มีธุรกิจขนาดใหญ่ด้านการค้าไม้ และมีข่าวลือว่าค้ายาเสพติด ต่อมาในปี 2553 เขาได้ยอมรับข้อเสนอของรัฐที่จะเปลี่ยนดีเคบีเอเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยงหรือกะเหรี่ยง บีจีเอฟ (Karen BGF ) ภายใต้การบังคับบัญชาของทัตมาดอว์ (Tatmadaw) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของกองทัพเมียนมา

เฉอ เจ้อเจียง และ ซอ ชิตตู่ ปี 2562
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ ก่อตั้งบริษัทชิต มิน เลียง (Chit Lin Myaing) รับดำเนินโครงการต่าง ๆ และได้รับสิทธิพิเศษในรัฐกะเหรี่ยง จากนั้นในปี 2560 จับมือกับหย่าไถ้ อินเตอร์เนชันนัล กรุ๊ป สร้างเมืองใหม่หย่าไถ้ (Yatai) ขึ้นในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ (Shwe Kokko) แต่ถูกรัฐบาลสมัยนางออง ซาน ซู จี เปิดการสอบสวนโครงการ และระงับการก่อสร้างในปี 2563 บริษัทนี้เป็นของนายเฉอ เจ้อเจียง นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกทางการไทยจับกุมในปี 2565 ตามหมายจับของทางการจีน

หวัน ค็อกคอย ปี 2563
เครดิตภาพ: Bernama

นอกจากนี้ซอ ชิตตู่ยังทำข้อตกลงกับตงเหมย กรุ๊ป พัฒนาเขตอุตสาหกรรมไซซีกัง หรือที่เรียกว่าเมืองเคเค ประธานบริษัทนี้คือนายหวัน ค็อกคอย เจ้าของฉายาคอย ฟันหลอ อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14เค ที่เป็นกลุ่มอาชญากรระดับโลกจากมาเก๊า เขาประกาศในงานเปิดตัวโครงการในปี 2563 ว่า จะพัฒนาเมืองเคเคให้เป็นเซินเจิ้นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลายเป็นว่าเมืองนี้คือแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงคนมาทำงานหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ โดยมีการกักขังและทำร้ายร่างกายอย่างน่ากลัว

วัยรุ่นลาวถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ในรัฐกะเหรี่ยง
เครดิตภาพ: RFA

ภายหลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โครงการเมืองใหม่หย่าไถ้ที่ถูกระงับไปได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ซอ ชิตตู่ได้รับรางวัลยกย่องจากรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2565 ในฐานะผู้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ แต่ในเดือนธันวาคม 2566 เขาถูกสหราชอาณาจักรประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรโทษฐานพัวพันการบังคับใช้แรงงานผู้ถูกล่อลวงให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์

ซอ ซิตตู่และครอบครัวถวายเงินให้พระวีระธุที่มีแนวทางชาตินิยม ปี 2566
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

วันที่ 23 มกราคมปีนี้ ซอ ชิตตู่เผยกับสื่อว่า ได้หารือกับ พล.ท.ซอ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาว่า บีจีเอฟไม่ต้องการรับเงินและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอีกต่อไป เนื่องจากต้องการเป็นอิสระและไม่ต้องการสู้รบกับชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน จากนั้นในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เขาประกาศยุบกะเหรี่ยง บีจีเอฟ และเปลี่ยนเป็นกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติหรือเคเอ็นเอ (KNA)

TNA News-Now-Next: Final Thoughts

ณ วันนี้ 26 เมษายน 2567สถานการณ์การสู้รบในเมียวดีเบาบางลง คนในเมืองเมียวดีที่เข้ามาหลบภัยใน อ.แม่สอด ทยอยเดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางความรู้สึกหวาดหวั่นว่า การสู้รบพร้อมจะปะทุขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ข้อตกลงหย่าศึกที่กองทัพเมียนมาตกลงกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ ให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยจะมีผลบังคับใช้ได้นานแค่ไหน หรือจะมีฝ่ายใดฉีกข้อตกลงก่อน ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ไทยต้องจับตาในฐานะที่มีพรมแดนด้านจังหวัดตากติดกับรัฐกะเหรี่ยง ไม่นับรวมพรมแดนด้านจังหวัดเชียงรายที่ติดกับรัฐฉาน ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งของเมียนมาที่กำลังมีการสู้รบกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงไม่ต่างกัน ส่วนบทบาทของซอ ชิตตู่ นั้นเห็นได้ชัดว่า เวลานี้เขาสามารถประสานประโยชน์ได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล เป้าหมายใหญ่ของเขาคือรักษาความสงบต่อไปแบบนี้แน่นอน  แต่หากมองในทางกลับกันถือว่าเป็นผลร้ายกับประชาชนชาวไทย เพราะในแง่หนี่งการสู้รบรอบนี้เป็นโอกาสดีเพื่อกวาดล้างและกำจัดธุรกิจมืด กาสิโน และ แหล่งอาชญากรรมที่อยู่ข้างรั้วไทย แม้ว่าเมื่อเสียงปืนจางหายไปดูจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศชายแดน แต่แท้จริงแล้วโอกาสในการเก็บกวาดภัยร้ายที่สร้างความทุกข์เข็ญให้คนไทยและอีกหลายชาติก็จางหายไปด้วยเช่นกัน.-814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย