TNA News-Now-Next: “ซอ ชิตตู่” เจ้าพ่อในเครื่องแบบแห่งเมียวดี

เมียวดี 26 เม.ย.- สถานการณ์การสู้รบตลอดเดือนเมษายน ระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านกับกองทัพเมียนมาในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทำให้ชื่อของ พันเอกซอ ชิตตู่ (Saw Chit Thu) ขุนศึกทรงอิทธิพลในเมืองนี้ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในชั่วข้ามคืน บางคนว่าเขาเป็นเจ้าของพื้นที่เมียวดีตัวจริง บางคนว่าเขาเป็นผู้มากบารมีประสานสิบทิศ บางคนว่าเขาเป็นแม่ทัพมาเฟียแห่งแม่น้ำเมย เขาคือใคร ถึงสะเทือนเมียนมาและไทยได้


ลำดับสถานการณ์การสู้รบในเมียวดี

วันที่ 5 เมษายน 2567 กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นแอลเอ (KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยู (KNU) อ้างว่า ได้ร่วมมือกับกองกำลังกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือพีดีเอฟ (PDF) ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมา เข้ายึดที่ตั้งทางทหารหลายแห่งในเมืองเมียวดี ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอเม่สอด จังหวัดตากของไทยโดยมีเพียงแม่น้ำเมยเป็นพรมแดนกั้น พร้อมกับเผยแพร่ภาพอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนมากที่ยึดได้จากทหารเมียนมาราว 600 นายที่ยอมจำนนพร้อมกับครอบครัว หลายฝ่ายมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้แก่เมียนมา เพราะเมียวดีเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทยกับเมียนมา เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,730 ล้านบาท)


เชิญธงเคเอ็นยูที่ค่ายทหารในเมียวดี

ต่อมาวันที่ 10 เมษายน กองกำลังฝ่ายต่อต้านยึดกองทัพทหารราบที่ 275 ค่ายผาซอง ถือเป็นการยึดเมืองเมียวดีได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทหารเมียนมาที่เหลืออยู่ราว 200 นายถอยร่นไปปักหลักอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ขณะที่ผู้คนในเมืองเมียวดีพากันเดินทางมายังจุดผ่านแดนแม่สอดเพื่อเข้ามาหลบภัยในไทย ทางการไทยต้องเสริมกำลังตามแนวชายแดน และจุดกระแสวิตกเรื่องจะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากทะลักเข้าไทย เพราะตัวเลขคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดเพิ่มขึ้นจากวันละ 2,000 คน เป็นวันละเกือบ 4,000 คน

ด่านแม่สอด

วันที่ 24 เมษายน สถานการณ์ในเมืองเมียวดีพลิกผันสร้างความแปลกใจให้แก่ทุกฝ่าย เมื่อเคเอ็นยูถอนกำลังออกจากเมียวดี โดยอ้างว่าเป็นการถอนกำลังชั่วคราว หลังจากทหารกองทัพเมียนมายกกำลังกลับเข้ามา ขณะที่โฆษกรัฐบาลเมียนมายืนยันว่า ทหารสามารถยึดค่ายผาซองกลับมาได้แล้ว และมีข้อตกลงหย่าศึกกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ กำหนดให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่เศรษฐกิจ ยุติการสู้รบและเปิดทางการขนส่งสินค้า กำหนดให้ทหารรัฐบาลที่หลบหนีไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับไปยังที่ตั้งหน่วยกองพัน 275 ค่ายผาซอง และให้เจ้าหน้าที่พลเรือนที่ประจำสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ชื่อของ ซอ ซิตตู่ ปรากฏ


ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังมีความคลุมเครือว่าฝ่ายต่อต้านและฝ่ายรัฐบาลตกลงกันได้อย่างไร ชื่อของพันเอกซอ ชิตตู่ ก็ปรากฏขึ้นในข่าวว่า เขาคือผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ เกิดในรัฐกะเหรี่ยง (Kayin เดิมใช้ว่า Karen) เป็นทั้งทหารและเป็นนักธุรกิจ บางครั้งถูกขนานนานว่า ขุนศึก เป็นอดีตผู้บังคับบัญชากองพัน 999 ของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตยหรือดีเคบีเอ (DKBA) และเข้าร่วมกับกองทัพพม่า ในปี 2537 เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของดีเคบีเอ มีธุรกิจขนาดใหญ่ด้านการค้าไม้ และมีข่าวลือว่าค้ายาเสพติด ต่อมาในปี 2553 เขาได้ยอมรับข้อเสนอของรัฐที่จะเปลี่ยนดีเคบีเอเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยงหรือกะเหรี่ยง บีจีเอฟ (Karen BGF ) ภายใต้การบังคับบัญชาของทัตมาดอว์ (Tatmadaw) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของกองทัพเมียนมา

เฉอ เจ้อเจียง และ ซอ ชิตตู่ ปี 2562
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

ซอ ชิตตู่ ก่อตั้งบริษัทชิต มิน เลียง (Chit Lin Myaing) รับดำเนินโครงการต่าง ๆ และได้รับสิทธิพิเศษในรัฐกะเหรี่ยง จากนั้นในปี 2560 จับมือกับหย่าไถ้ อินเตอร์เนชันนัล กรุ๊ป สร้างเมืองใหม่หย่าไถ้ (Yatai) ขึ้นในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ (Shwe Kokko) แต่ถูกรัฐบาลสมัยนางออง ซาน ซู จี เปิดการสอบสวนโครงการ และระงับการก่อสร้างในปี 2563 บริษัทนี้เป็นของนายเฉอ เจ้อเจียง นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกทางการไทยจับกุมในปี 2565 ตามหมายจับของทางการจีน

หวัน ค็อกคอย ปี 2563
เครดิตภาพ: Bernama

นอกจากนี้ซอ ชิตตู่ยังทำข้อตกลงกับตงเหมย กรุ๊ป พัฒนาเขตอุตสาหกรรมไซซีกัง หรือที่เรียกว่าเมืองเคเค ประธานบริษัทนี้คือนายหวัน ค็อกคอย เจ้าของฉายาคอย ฟันหลอ อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14เค ที่เป็นกลุ่มอาชญากรระดับโลกจากมาเก๊า เขาประกาศในงานเปิดตัวโครงการในปี 2563 ว่า จะพัฒนาเมืองเคเคให้เป็นเซินเจิ้นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลายเป็นว่าเมืองนี้คือแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงคนมาทำงานหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ โดยมีการกักขังและทำร้ายร่างกายอย่างน่ากลัว

วัยรุ่นลาวถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ในรัฐกะเหรี่ยง
เครดิตภาพ: RFA

ภายหลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โครงการเมืองใหม่หย่าไถ้ที่ถูกระงับไปได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ซอ ชิตตู่ได้รับรางวัลยกย่องจากรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2565 ในฐานะผู้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ แต่ในเดือนธันวาคม 2566 เขาถูกสหราชอาณาจักรประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรโทษฐานพัวพันการบังคับใช้แรงงานผู้ถูกล่อลวงให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์

ซอ ซิตตู่และครอบครัวถวายเงินให้พระวีระธุที่มีแนวทางชาตินิยม ปี 2566
เครดิตภาพ: The Irrawaddy

วันที่ 23 มกราคมปีนี้ ซอ ชิตตู่เผยกับสื่อว่า ได้หารือกับ พล.ท.ซอ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาว่า บีจีเอฟไม่ต้องการรับเงินและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอีกต่อไป เนื่องจากต้องการเป็นอิสระและไม่ต้องการสู้รบกับชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน จากนั้นในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เขาประกาศยุบกะเหรี่ยง บีจีเอฟ และเปลี่ยนเป็นกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติหรือเคเอ็นเอ (KNA)

TNA News-Now-Next: Final Thoughts

ณ วันนี้ 26 เมษายน 2567สถานการณ์การสู้รบในเมียวดีเบาบางลง คนในเมืองเมียวดีที่เข้ามาหลบภัยใน อ.แม่สอด ทยอยเดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางความรู้สึกหวาดหวั่นว่า การสู้รบพร้อมจะปะทุขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ข้อตกลงหย่าศึกที่กองทัพเมียนมาตกลงกับกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ ให้เมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยจะมีผลบังคับใช้ได้นานแค่ไหน หรือจะมีฝ่ายใดฉีกข้อตกลงก่อน ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ไทยต้องจับตาในฐานะที่มีพรมแดนด้านจังหวัดตากติดกับรัฐกะเหรี่ยง ไม่นับรวมพรมแดนด้านจังหวัดเชียงรายที่ติดกับรัฐฉาน ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งของเมียนมาที่กำลังมีการสู้รบกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงไม่ต่างกัน ส่วนบทบาทของซอ ชิตตู่ นั้นเห็นได้ชัดว่า เวลานี้เขาสามารถประสานประโยชน์ได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล เป้าหมายใหญ่ของเขาคือรักษาความสงบต่อไปแบบนี้แน่นอน  แต่หากมองในทางกลับกันถือว่าเป็นผลร้ายกับประชาชนชาวไทย เพราะในแง่หนี่งการสู้รบรอบนี้เป็นโอกาสดีเพื่อกวาดล้างและกำจัดธุรกิจมืด กาสิโน และ แหล่งอาชญากรรมที่อยู่ข้างรั้วไทย แม้ว่าเมื่อเสียงปืนจางหายไปดูจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศชายแดน แต่แท้จริงแล้วโอกาสในการเก็บกวาดภัยร้ายที่สร้างความทุกข์เข็ญให้คนไทยและอีกหลายชาติก็จางหายไปด้วยเช่นกัน.-814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]