รัฐสภา 21 ส.ค.-กมธ.มั่นคงฯ เชิญ “รัฐบาล-กองทัพ” หารือแนวทางใช้ ICC สร้างสันติภาพระยะยาว “โรม” ชี้ชายแดนยังตึงเครียด มองยื้อกันไปมาทำปัญหาถูกแช่แข็ง ย้ำสุดท้ายทุกอย่างจบที่โต๊ะเจรจา
คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนเป็นประธาน มีวาระการประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเชิญ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พลตรีณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าให้ข้อมูล

โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องชายแดนไทยกัมพูชาต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่าสถานการณ์อาจนิ่งขึ้นแต่ยังมีปัญหาอยู่ และยังมีการปะทะคารมในบรรยากาศที่ตึงเครียด ระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า และมีข้อมูลว่าช่องอานม้าเป็นพื้นที่ที่มีความล้มเหลวในการบริหารจัดการชายแดนมานาน ซึ่งเป็นผลให้ช่องอานม้ายังคงเป็นอยู่อย่างนี้อย่างที่เราเห็น มีชุมชนชาวกัมพูชามาตั้งอยู่เต็มพื้นที่ โดยบรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้น จึงต้องมีแนวทางในการพูดคุยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และอาจรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ที่มีการรุกล้ำ ผ่านการสร้างกาสิโน และอาจมีการรุกล้ำพื้นที่อื่น ๆเข้ามาได้เรื่อย ๆ หากไม่มีการเตรียมการ
ทั้งนี้จะต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมโดยหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาหารือต่อพลเอกณัฐพลเช่นเดียวกัน และอาจได้พูดคุยกันในแง่ของการทูตการต่างประเทศว่าจะมีแนวทางต่อไปอย่างไร ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องจบลงที่การเจรจา

ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เป็นจำนวนมากนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก็จะมีการหารือเรื่องนี้เช่นเดียวกันว่าจะเป็นไปได้อย่างไร จริง ๆ เราเคยหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยแล้วแต่ได้รับการตอบรับที่น้อยอยู่ และเรื่องนี้ยังไม่มีการขยับแต่อย่างใดซึ่งก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว
เมื่อถามว่าการเชิญพลเอกณัฐพล มาร่วมประชุมในวันนี้ต้องการให้ได้คำตอบแบบใดกรณีชายแดนไทยกัมพูชา นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตนคิดว่าเรื่องหลักเป็นการหาแนวทางว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ตอนนี้ทุกฝ่ายเห็นว่ามีความตึงเครียดบริเวณชายแดน ชาวบ้านบางส่วนที่เป็นกังวลก็กลับไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงก็มีประมาณ 500 คน ขณะที่ภาคธุรกิจก็ไม่มีความมั่นใจ ดังนั้นต้องหาความชัดเจนจากเรื่องนี้ได้แล้วว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
“เราเองก็อยากจะฟังรัฐมนตรีช่วยเช่นกัน กลายเป็นว่าเรื่องนี้ยังคงยื้อกันไปมา และถูกแช่แข็งไว้อย่างนั้นโดยไม่รู้จะไปอย่างไรต่อ ผมคิดว่าก็ไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายเราเช่นกัน ส่วนตัวผมต้องพูดคุยกับรัฐมนตรีและตัวแทนจากรัฐบาลว่ากลไกการใช้ ICC จะเป็นการสร้างสันติภาพระยะยาวตามแนวชายแดนและให้ทุกฝ่ายกลับเข้าสู่การเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไป” นายรังสิมันต์กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย