วอชิงตัน 26 พ.ค. – ทั่วโลกต่างประณามเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในรัฐเทกซัสของสหรัฐที่ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 19 ราย และครูเสียชีวิต 2 ราย พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการชูภาพลักษณ์ความเป็นประเทศต้นแบบของสหรัฐว่ายังคงมีประสิทธิภาพหรือไม่
ชาติพันธมิตรของสหรัฐ รวมถึงนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งไม่ค่อยกล่าวถึงปัญหาในสหรัฐมากนัก ต่างแสดงความวิตกกังวลหลังมือปืน วัย 18 ปี ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองอูวัลเดของรัฐเทกซัส จนทำให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 19 รายและครูเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งได้รับอาวุธจากสหรัฐเพื่อนำมาใช้ป้องกันการบุกรุกของรัสเซีย มองว่า เหตุกราดยิงดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ากลัว ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า เขาขอมีส่วนร่วมกับผู้ที่ต่อสู้เพื่อยุติความรุนแรง
ในขณะเดียวกัน ชาติพันธมิตรบางส่วนของสหรัฐได้ตั้งคำถามว่า ทำไมสหรัฐจึงไม่สามารถแก้ปัญหาเหตุกราดยิงในประเทศได้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญสหรัฐมีสิทธิที่จะแก้กฎหมายครอบครองอาวุธและจัดการกลุ่มนักล็อบบี้ทางการเมืองที่ไม่ต้องการให้ออกกฎหมายควบคุมการซื้อปืนได้ ในขณะที่สหรัฐมีสถิติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงโดยเฉลี่ยมากถึงวันละ 111 ราย นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนสหรัฐ เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้แก้กฎหมายควบคุมปืนให้เข้มงวดยิ่งขึ้นหลังมือปืนที่เชื่อเรื่องคนผิวขาวเป็นใหญ่ก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 รายเมื่อปี 2562 ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์จริงจังกับแก้ปัญหาในเรื่องนี้มาก และไม่ต้อง การให้เกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย