แคนเบอร์รา 22 มี.ค. – นายหลี่ เค่อเฉียง จะเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนแรกที่เดินทางเยือนออสเตรเลียในรอบ 11 ปี โดยมุ่งหวังที่จะขยายความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีท่ามกลางภาวะการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การค้าโลกจากนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
รายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีหลี่มีกำหนดจะเดินทางถึงกรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ โดยจะเยือนออสเตรเลียเป็นเวลา 4 วัน นายกรัฐมนตรีมัลคอร์ม เทิร์นบูลกล่าวว่า เขาและนายกรัฐมนตรีหลี่จะร่วมกันประกาศเดินหน้าข้อตกลงการค้าเสรีท่ามกลางช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในขณะนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสความร่วมมือด้านการบริการ นวัตกรรม และการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
จีนเป็นประเทศคู่เจรจาทางการค้าใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการค้าในระดับทวิภาคีสูงกว่า 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.71 ล้านล้านบาท) และมูลค่าการลงทุนกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.47 ล้านล้านบาท) ทั้งนี้ การเข้ามาของนายทรัมป์ พร้อมกับนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวคิดการปกป้องการค้าในระบบการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ สหรัฐยังประกาศว่า อาจจะทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีกับออสเตรเลีย ที่มีมาอย่างยาวนาน 12 ปีด้วย
อย่างไรก็ดี นักวิชาด้านการเมืองระหว่างประเทศในออสเตรเลียคาดว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียจะไม่หยิบยกประเด็นหาแนวทางรับมือสหรัฐขึ้นมาพูดคุยในระหว่างการหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เพราะออสเตรเลียต้องใช้ความรอบคอบอย่างมากในการพูดประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐ ซึ่งยังเป็นประเทศคู่เจรจาที่สำคัญที่สุด
ส่วนนายเจิ้ง เจ๋อกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่งวานนี้ว่า รัฐบาลคาดหวังว่า ออสเตรเลียจะมองข้ามเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ และหันมาให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย