28 ก.พ. – สงครามในยูเครนเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว ชาวยูเครนผนึกกำลังอย่างกล้าหาญสกัดกั้นทหารรัสเซียที่พยายามเข้ายึดเมืองหลวง
การสู้รบอย่างหนักหน่วงในหลายเมืองของยูเครน แม้ว่ารัสเซียซึ่งมีกำลังทหารที่เหนือกว่าได้เข้ายึดหลายเมืองทางใต้และทางตะวันออกแต่เมืองใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเคียฟ และเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญอันดับสองของประเทศซี่งอยู่ใกล้พรมแดนรัสเซียนั้น กองทัพยูเครนและพลเรือนที่จับอาวุธสู้ยังสามารถปักหลักสู้
การยืนหยัดต่อสู้ของชาวยูเครน มีทั้งการใช้โดรนโจมตีทำลายแท่นยิงจรวดของรัสเซียได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นเครื่องปลุกใจให้กับชาวยูเครนมากมายที่เข้าร่วมรบ เป็นอาสาสมัครป้องกันประเทศร่วมกับทหารในแนวหน้า
ส่วนพลเรือนที่อยู่แนวหลังก็ช่วยเหลือเป็นแรงหนุน เช่น อาสาสมัครที่มาร่วมกันทำระเบิดเพลิง ด้วยการนำโรงงานผลิตเบียร์มาปรับใช้เป็นโรงงานอาวุธ เพื่อส่งไปยังแนวหน้าโดยใช้วิธีทำระเบิดเพลิงตามที่รัฐบาลเผยแพร่วิธีทำให้ประชาชนช่วย ที่สำคัญคือขวดเบียร์ที่นำมาใช้นั้นมีรูปเขียนล้อเลียนนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่สั่งบุกยูเครน พร้อมกับคำสบถต่อว่าในภาษายูเครนอยู่บนฉลากด้วย พวกเขาบอกว่าเป็นระเบิดเพลิงเพื่อปูติน
อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 4 วันที่รัสเซียต้องเผชิญแรงต้านทานอย่างหนัก จึงเริ่มปรับกลยุทธ์ รัสเซียยิงโจมตีคลังน้ำมันด้วยจรวดแถบชานกรุงเคียฟ ทำให้เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหวและเพลิงลุกไหม้ ชาวบ้านในบริเวณนั้นต่างหวาดกลัวภัยสงคราม เห็นได้ชัดว่ารัสเซียเริ่มมุ่งเน้นทำลายคลังเชื้อเพลิงและสนามบิน หวังที่จะบั่นทอนกำลังของยูเครน
จากภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด ทำให้เห็นว่ารัสเซียได้ส่งกองทหารเข้าไปเสริม เคลื่อนกำลังห่างจากกรุงเคียฟไปทางเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร ขบวนรถมีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร โดยสิ่งที่กังวลกันมากคือสงครามอาจลุกลามเป็นสงครามนิวเคลียร์ หลังจากนายปูติน เพิ่งสั่งการเมื่อวานนี้ให้หน่วยรบที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมรบ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพียงอุบายสร้างความหวาดกลัวและเป็นเครื่องต่อรองสำหรับการเจรจา. – สำนักข่าวไทย